ที่ประชุม ก.ตร. ยกเลิกชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นอนุกรรมการข้าราชการตำรวจ เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบแล้ว โดยอ้างเป็นคำสั่งเก่า ขณะที่เจ้าตัวอ้าง ช่วงนี้ดวงไม่ค่อยดี
หลังปรากฏชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ที่ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้ย้ายขาดจากข้าราชการตำรวจไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับการแต่งตั้งเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจ (อนุฯ ก.ตร.) เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานประธาน ก.ตร.ลงนามเห็นชอบตามมติที่ประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 5/2562 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2562 ส่งผลให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลาย
ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการประชุมด่วนของ ก.ตร. ในช่วงบ่ายวานนี้ โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นประธาน ซึ่งมีวาระสำคัญเพื่อพิจารณายกเลิกคำสั่ง แต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นกรรมการอนุ ก.ตร. เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงการถอนชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ว่า เนื่องจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ ถูกคำสั่งโอนย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกฯแล้ว อาจไม่สะดวกในการเดินทางไปประชุม อนุ ก.ตร. จึงเห็นควรแต่งตั้ง พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 (รอง ผบก.น.8) มาเป็นอนุกรรมการฯ แทน และขอยืนยันว่า การเปลี่ยนตัวอนุกรรมการครั้งนี้ เป็นไปเพื่อความเหมาะสม ไม่เกี่ยวข้องกับเสียงวิจารณ์แต่อย่างใด ขณะที่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การแต่งตั้งดังกล่าวสามารถให้บุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นข้าราชการตำรวจเข้ามาเป็นคณะอนุ ก.ตร. ได้ ซึ่งอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ก.ตร.ชุดใหญ่ ส่วนตนมีหน้าที่ลงนาม
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดใจเป็นครั้งแรก ยืนยัน ตนยังเป็นคณะอนุกรรมการ ก.ตร. ซึ่งเป็นชุดทำงานชุดเดิม ยอมรับช่วงนี้ดวงไม่ค่อยดี จึงเดินสายตระเวนไหว้พระขอพร แต่ไม่มีการทำพิธีกรรมใดๆ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ตนพร้อมที่จะทำงานเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจะทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล