พรรคพลังประชารัฐ เตรียมยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยกรณี 33 ส.ส.ฝ่ายค้าน เข้าข่ายถือครองหุ้นสื่อ ผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
นายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.นนทบุรีและฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยภายหลังทบทวนข้อกฎหมายเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยการถือครองหุ้นสื่อมวลชนของ 33 ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน
โดยระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ เตรียมยื่นคำร้องทั้งหมดให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการ แทนการไปยื่นด้วยตนเองในนามกลุ่มบุคคล
เนื่องจาก ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 41 ระบุว่า การให้กลุ่มบุคคลยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยคำร้องได้ แต่ในรัฐธรรมนูญ กลับไม่ได้ระบุถึงขั้นตอนดังกล่าว จึงเกรงว่า ศาลจะไม่รับวินิจฉัย จึงเตรียมยื่นผ่านประธานสภาฯ แทน โดยจะรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ทันภายในวันนี้
เปิด 33 รายชื่อ ส.ส.ฝ่ายค้านถูกร้องปมถือหุ้นสื่อ “เสรีพิศุทธิ์” ติดโผ
สำหรับ รายชื่อ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ที่พรรคพลังประชารัฐจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้รับไว้วินิจฉัยว่าเข้าข่ายเป็นเจ้าของหรอเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆอันขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ จำนวน 33 คน
โดยพรรคอนาคตใหม่ มีจำนวน ส.ส. ที่ถูกยื่นร้องมากที่สุด จำนวน 21 คน เช่น พลโทพงศกร รอดชมภู , นายคารม พลพรกลาง รวมถึง นายวาโย อัศวรุ่งเรือง , พรรคเพื่อไทย จำนวน 4 คน ,พรรคประชาชาติ 1 คน ,พรรคเสรีรวมไทย 3 คน มีชื่อของ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ปรากฎด้วย และ พรรคเพื่อชาติ มี 4 คน
ด้าน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวด้วยว่า แม้พรรคพรรคอนาคตใหม่ มี 21 รายชื่อ แต่ยืนยันว่าได้ยื่นโอนหุ้นเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้ปกปิดอะไรเพราะได้ชี้แจงมาตลอด ส่วนกรณีของนายภูเบศภ์ ที่ถูกตัดสิทธิ์ ก็ชี้ชัดว่า กฎหมายเป็นสิ่งที่มีปัญหา ตนเองจึงอยากให้ศาลรัฐธรรมนูญ ใช้มาตราฐานในการตัดสินอย่างเท่าเทียมกัน