กลุ่มสามมิตร และกลุ่ม กปปส. ในพรรคพลังประชารัฐ เปิดศึกชิงเก้าอี้รัฐมนตรี รุนแรงถึงขนาดทวงเงินหาเสียงคืน โดยระบุ ถ้าคืนเงินแล้ว อยากจะไปไหนก็ไป
ภายหลังที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี กรอกประวัติส่วนตัวที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ไม่ได้รับการเสนอชื่อออกมาเคลื่อนไหว
แหล่งข่าวจากพปชร. เล่าว่า มีส.ส.และแกนนำในพรรคไม่พอใจแกนนำกปปส. 2 คน คือนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่น่าจะได้รมว.ศึกษาธิการ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ที่น่าจะได้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่มีเสียง ส.ส.กทม. เพียง 11 เสียง แต่ได้ถึง 2 เก้าอี้ เนื่องจากทั้ง 2 คนได้วิ่งไปล็อบบี้ผู้มีบารมีในรัฐบาล ช่วงโค้งสุดท้ายที่อาจต้องตัดโควตาออก 1 เก้าอี้คือนายพุทธิพงษ์ จะเป็นแค่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เนื่องจากต้องสละเก้าอี้ให้พรรคชาติพัฒนา โดยเฉือนโควตาของกลุ่มสามมิตร ซึ่งมีส.ส. 30 เสียง และเสนอให้ไปตัดตำแหน่งของนายอนุชา นาคาศัย ออกแทน
ล่าสุด ! มีรายงานว่า ผู้ใหญ่ที่ดูแลพรรคพลังประชารัฐ เรียกเรียกแกนนำ กลุ่มสามมิตร ที่ออกมาเคลื่อนไหว เข้าพบ พร้อมชี้แจงเหตุผล ที่มีการสลับให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สลับเก้าอี้กับ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รวมไปถึง กรณีที่มีการจัดสรรเก้าอี้รมช. ให้กับพรรคชาติพัฒนา โดยให้เหตุผลว่า แม้พรรคชาติพัฒนา จะได้เพียง 3 เสียง แต่ก็เป็น 3 เสียง ที่ได้มาด้วยตัวเอง ต่างกับกลุ่มสามมิตรที่อาศัยเงินทุน และทรัพยากรจากพรรคพลังประชารัฐ ในการสนับสนุนหาเสียงเลือกตั้ง จนได้เป็นส.ส. ฉะนั้นจึงควรยอมรับ และปฏิบัติตามการตัดสินใจของพรรค หากกลุ่มสามมิตร ยังยืนกรานว่า พวกตนได้เป็น ส.ส. เพราะตัวเอง ก็ขอให้นำเงินที่ใช้ในการหาเสียง มาคืนให้กับพรรค จากนั้นกลุ่มสามมิตร จะอยู่หรือออกจากพรรคพลังประชารัฐ ก็ตามใจ ซึ่งรายงานข่าวระบุว่า เมื่อเจอเงื่อนไขเช่นนี้ ทำให้ทางกลุ่มสามมิตร มีท่าทีที่อ่อนลงไป
ขณะที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี พปชร. ที่มีข่าวหลุดเก้าอี้รัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเรียกร้องทุกกลุ่มให้หยุดเคลื่อนไหว เพราะทุกคนต่างเข้ามาเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งปัญหาภายในหัวหน้าพรรคและเลขาฯ ต้องลงมาแก้ด้วยตัวเอง ส่วนอำนาจการจัดครม. ตนเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจเต็ม ดังนั้นกลุ่มชลบุรีจึงไม่มีปัญหา รวมถึงกลุ่มภาคกลางก็คุยกันแล้ว จะยอมเป็นเด็กดีให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำงาน เพราะหากทำตัวเป็นเด็กดื้อแล้วได้ขนม ก็ต้องดื้อกันทั้งพรรค