svasdssvasds

"จ่านิว"ผ่าตัดยกจมูก หายใจทางปาก แม่ยันไม่ใช่ฝีมือแก๊งทวงหนี้

ตำรวจพบรถจักรยานยนต์ที่ทำร้าย "จ่านิว" หายตัวไปในห้างแฟชั่นไอซ์แลนด์รามอินทรา ขณะนี้กำลังเร่งสอบพยาน และนำรถคันอื่นมาเทียบเคียงกับรถของคนที่ก่อเหตุ ขณะที่มารดา ยืนยัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหนี้นอกระบบ เพราะเคลียร์หมดไปนานแล้ว

นางพัฒน์นรี ชาญกิจ มารดา นายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว เปิดเผยถึงอาการของนายสิรวิชญ์ว่า เพิ่งได้รับการผ่าตัดยกกระดูกจมูก ยังหายใจทางจมูกไม่ได้ เพราะปิดผ้าก๊อซไว้ จึงต้องหายใจทางปาก และเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ตำรวจเดินทางมาสอบปากคำ แต่นาย สิรวิชญ์ ได้ปฏิเสธโดยบอกว่ายังไม่พร้อม ส่วนอาการบาดเจ็บที่ตาขวาแพทย์ยังคงให้ยาลดอักเสบและลดบวม ไม่มีอาการใดน่าเป็นห่วง

"จ่านิว"ผ่าตัดยกจมูก หายใจทางปาก แม่ยันไม่ใช่ฝีมือแก๊งทวงหนี้

ส่วนกรณีที่อ้างลูกชายพูดว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกน้องนักการเมืองนั้น ขอยืนยันว่า เป็นเรื่องที่ไม่ได้ออกจากปากของลูกชายอย่างแน่นอน รวมถึงประเด็นเรื่องหนี้นอกระบบก็ขอให้ตัดออกไปได้เลย เพราะครอบครัวไม่มีเรื่องนี้มากว่า 10 ปีแล้ว โดยได้ชำระหนี้ไปหมดทุกบาททุกสตางค์ หากจะมีหนี้ก็คงมีเรื่องค่าเช่าบ้าน ซึ่งหลายปีก่อนอาจจะมีการค้างจ่ายที่ล่าช้า แต่ปัจจุบันจ่ายตรงทุกเดือน ส่วนหนี้ส่วนตัวของนายสิรวิชญ์คือหนี้กองทุนเงินให้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

รายงานฝ่ายสืบสวน เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีได้ลงพื้นที่เก็บภาพจากกล้องวงจรปิด ทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุแล้ว นำไปตรวจสอบที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พบว่า คนขี่รถจักรยานต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน สวมเสื้อแขนยาวสีขาว คนซ้อนใส่เสื้อคลุมสีดำ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบทั้งคู่ ออกมาจากถนนพระยาสุเรนท์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามอินทรา คาดว่า เข้าไปจอดรอนายสิรวิชญ์ที่ใต้สะพานลอย และมีคนขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ คนซ้อนสวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงขายาวรองเท้าผ้าใบ หยุดรถรอเหมือนจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามอินทรา

"จ่านิว"ผ่าตัดยกจมูก หายใจทางปาก แม่ยันไม่ใช่ฝีมือแก๊งทวงหนี้

"จ่านิว"ผ่าตัดยกจมูก หายใจทางปาก แม่ยันไม่ใช่ฝีมือแก๊งทวงหนี้

เมื่อนายสิรวิชญ์ เดินถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดริมฟุตปาธ ก่อนใช้อาวุธที่เตรียมมาวิ่งเข้าทำร้ายนายสิรวิชญ์ นานกว่า 30 วินาที ก่อนจะแยกย้ายหลบหนีกันไปบนถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรี แล้วกลับรถเข้า กทม.มุ่งหน้าหลักสี่ และหายไปในย่านห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์

รายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.3 สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์คนร้ายรุมทำร้ายนายสิรวิชญ์ ไปแล้ว 3 คน และจะต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม โดยเน้นเรื่องรูปพรรณตำหนิของคนร้าย ขณะที่ฝ่ายสืบสวนนำภาพรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีขาว มาเทียบเคียงกับภาพในกล้องวงจรปิด โดยจะให้นายสิรวิชญ์ เป็นผู้ยืนยันว่า ตรงกับพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุหรือไม่ พร้อมจะต้องสอบปากคำประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง และเรื่องส่วนตัว ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ในอดีตและช่วงก่อนเกิดเหตุ รวมถึงประเด็นที่นายสิรวิญ์ สงสัยว่า ถูกบุคคลอื่นติดตามในช่วง 2-3 วันก่อนเกิดเหตุ

related