"เพื่อไทย" ซัด "บิ๊กตู่" ไม่น่าเชื่อถือแล้ว หลังศาลรับสอบคุณสมบัติ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องให้วินิจฉัยคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า กรณีดังกล่าวเชื่อว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อการเป็นผู้นำประเทศ และผู้นำรัฐบาลต่อการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ช่วงวันที่ 25-26 ก.ค.นี้อย่างแน่นอน

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลานานหรือไม่ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์หมดคุณสมบัติจะเป็นนายกฯ รัฐบาลชุดปัจจุบันต้องสิ้นสุดลงทันที ดังนั้นการนำนโยบายที่แถลงไปปฏิบัติจะเกิดปัญหาหรือไม่ นอกจากนั้นยังเชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองแน่นอน และหาก พล.อ.ประยุทธ์ขาดคุณสมบัติ คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐต้องรับผิดชอบ ฐานะที่ส่งบุคคลที่ขาดคุณสมบัติลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ยุบพรรคพลังประชารัฐทันที

ด้านนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่(อนค.) ในฐานะวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงแนวทางอภิปรายของส.ส.พรรค ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ว่า วันที่ 21 ก.ค.จะมีการประชุมหารือกับฝ่ายนโยบายที่พรรคอนาคตใหม่ เพื่อกำหนดประเด็นการอภิปรายตามกรอบเวลาที่ได้คือ 1 ใน 3 ของเวลารวมฝ่ายค้าน 13 ชั่วโมงครึ่ง เบื้องต้นมีการจัดวางผู้อภิปรายให้รับผิดชอบในแต่ละประเด็น คนละ 15-20 นาที ในภาพรวมอนค.จะมุ่งเน้นอภิปรายตามกรอบนโยบายรัฐบาล แต่อาจพาดพิงรัฐมนตรีบางรายบ้างจากผลงานเดิมที่มีปัญหา เช่น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษก อนค. กล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอว่ารัฐบาลจะส่งนโยบายรัฐบาลฉบับสมบูรณ์มาให้เมื่อไร สำหรับจุดยืนของอนค. ตั้งใจว่าจะเน้นอภิปรายถึงตัวนโยบายในด้านความเป็นไปได้และประสิทธิภาพ รวมถึงดูว่าเป็นนโยบายที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ของประเทศหรือเพื่อกลุ่มทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น จะไม่เน้นเรื่องคุณสมบัติส่วนตัวของรัฐมนตรี เว้นแต่เป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะมีผลต่อการนำนโยบายไปปฏิบัติ เช่นคุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องดังกล่าวแล้ว ก็ไม่มีปัญหาในการอภิปราย

ด้านนายสุทิน วรรณบวร อดีตนักข่าวการเมืองอาวุโส โพสต์ข้อความลงในเฟซบุก Sutin Wannabovorn กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ผู้ร้องเรียนซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติเมื่อฝ่ายตุลาการ รับเรื่องดำเนินการวินิจฉัยแล้ว จึงไม่มีสิทธิที่จะมาต่อสู้หักล้างประเด็นที่ว่ากันในสภา เพราะการกล่าวหาโจมตีตอบโต้กันในสภาอาจเข้าข่าย ก้าวก่ายชี้นำหรือละเมิดอำนาจศาลได้