3 นักวิชาการ ให้คะแนนฝ่ายค้าน-รัฐบาลสูสี เฉือนกันไม่ขาด

นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชาคณะรัฐศาสตร์ มสธ. กล่าวถึงภาพรวมการแถลงนโยบายรัฐบาลว่า การอภิปรายยังมีการพูดพาดพิงเรื่องความชอบธรรมของ คสช. ที่มาของส.ว. ที่มาของรัฐบาล และองค์กรอิสระ โดยเฉพาะคุณสมบัตินายกฯมากกว่าตัวนโยบาย และเชื่อว่าหลังจากนี้กิจกรรมทางการเมือง เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ การอภิปรายงบประมาณ จะมีเรื่องความชอบธรรมทางการเมืองเป็นระยะ

สำหรับนายกฯ ควรปรับเปลี่ยนตัวเอง ต้องระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้น โดยเฉพาะวิวาทะกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้า พรรคเสรีรวมไทย และการเรียนรู้กฎของสภาใหม่ ส่วนการทำหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มีความเก๋า ถือว่าเอาอยู่ แต่สิ่งที่น่ากังวลคือการทำหน้าที่ของนาย พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาที่ไม่คุ้นชิน กับสภาจากการเลือกตั้ง อาจยังไม่เท่าทันนักการเมือง ต้องอาศัยระยะเวลาในการปรับตัว โดยภาพรวมการอภิปรายครั้งนี้คงไม่มีใครได้ใครเสียทั้งสองฝ่าย

นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง กล่าวถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลว่า พอรับได้มีหลักคิดดีกว่าครั้งที่ผ่านมา ที่เละเทะคุมยากและนอกลู่นอกทางมากกว่าครั้งนี้ และเห็นว่าฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่มีการเตรียมพร้อมมาดี พรรคเพื่อไทยเสียอีกที่ติดลบ ยังอภิปรายเสียดสีเหมือนที่ผ่านมา แทนที่จะพูดเรื่องแถลงนโยบาย ก็เหมือนกลับอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ส่วนการชี้แจงของพล.อ.ประยุทธ์ ก็สามารถตอบได้ ส่วนอารมณ์ที่แสดงออกมาก็ไม่มากกว่าที่คิดไว้ อยู่ในขั้นที่พอรับได้ แต่คิดว่านายกฯน่าจะควบคุมอารมณ์ได้มากกว่านี้ อย่ามองคนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเพราะไม่ใช่ทหาร ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หรือนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ก็ชี้แจงตามลีลาของแต่ละคน ดังนั้น หากจะให้คะแนนในการแถลงนโยบายครั้งนี้ ตนให้คะแนนฝ่ายค้านจาก 10 ให้ 6 ในฐานะมวยรอง ให้มากกว่านายกฯและรัฐบาลที่ได้ 5

นายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง กล่าวว่า รัฐมนตรี ที่พูดได้เนื้อหามากที่สุด คือ นายสมคิด ซึ่งตนให้คะแนน 5.5 คะแนน ให้คะแนนนายกฯ 4 คะแนน

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นบุคคลที่ไม่มีเครดิตของคนที่เรียนจบกฎหมาย เพราะสิ่งที่แสดงออกมาตลอดเวลาคือความพยายามเบี่ยงเบนกฎหมายทำให้คนเข้าใจผิด ขอให้แค่ 2 คะแนน ส่วนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้ศูนย์คะแนน เพราะ ไม่ได้มีความสนใจใส่ใจอะไร

ขณะที่ในส่วนของส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน การอภิปรายนโยบายรัฐบาลครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของหลายคน หลายพรรค ที่ได้ทำหน้าที่ในสภา ขอให้ 7 คะแนน ซึ่งคาดหวังว่าการอภิปรายเรื่องงบประมาณแผ่นดิน และการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งหน้าฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ได้ดีกว่านี้