“ไพบูลย์” ห่วงฝ่ายค้าน เดินหน้าซักฟอก ปมถวายสัตย์ฯ เสี่ยงถูกฟ้อง

วันนี้ (12 ก.ย. 62) นายไพบูลย์​ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงประเด็นที่พรรคฝ่ายค้านเดินหน้าการอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามม. 152 ตามญัตติที่เสนอเพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในวันที่ 18 กันยายนนี้ ซึ่งมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่เกี่ยวข้อง และให้ความเห็นว่าไม่มีองค์กรใดตามรัฐธรรมนูญมีอำนาจตรวจสอบ

โดยระบุว่า ในความเห็นส่วนตัวหากฝ่ายค้านยังเดินหน้าที่จะอภิปรายในประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณถือว่าเป็นความเสี่ยงที่จะกระทำการ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ และอาจมีฝ่ายตรวจสอบยื่นเรื่องให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งได้

อย่างไรก็ตามในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ยกคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ต่อประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณนั้น มีเนื้อหาที่ชี้ชัดเจนว่าเรื่องดังกล่าว คือ เขตพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์  องค์กรตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งรวมถึงสภาผู้แทนราษฎรไม่มีอำนาจใดจะตรวจสอบได้

“ผมขอเตือนด้วยความเป็นห่วงการกระทำใดๆ ของฝ่ายค้านที่จะพิจารณาประเด็นซึ่งอยู่ในเขตพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์มีความสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง และ ฝ่ายค้านอาจถูกตรวจสอบ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ​มาตรา 152 หากเป็นเรื่องอื่น เช่น การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ไม่แสดงรายละเอียดของงบประมาณ อาจทำได้ แต่เรื่องอื่นถือเป็นความเสี่ยงที่จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งในวันอภิปรายผมจะใช้สิทธิอภิปรายเพื่อทักท้วงไว้ด้วย” นายไพบูลย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีดังกล่าวฝ่ายค้านควรถอนญัตติหรือไม่ หรือ สภาฯ ควรทบทวนการบรรจุวาระหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่าตนไม่เสนอแนวทางใด หรือการถอนญัตติดังกล่าว แต่อยากให้ข้อคิดดังกล่าวเพราะตนเป็นห่วง เพราะหากยังเดินหน้าทำในเรื่องที่ไม่มีอำนาจ เชื่อว่าผู้ที่ลงชื่อเสนอญัตติจะถูกองค์กรที่มีอำนาจ เช่น ส.ว. ตรวจสอบหรือฟ้องร้องแน่นอน