svasdssvasds

รมช.สธ. มั่นใจไทยเป็นผู้นำอาเซียน พร้อมรับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

องค์การอนามัย ร่วม กระทรวงสาธารณะสุข เชิญ 40 ประเทศ จัดสัมมนาเครือข่ายด้านการจัดการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระดับนานาชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ รมช.สาธารณสุข เผยองค์การอนามัยโลกเลือกจัดสัมมนาที่ไทย เหตุมั่นใจไทยเป็นแกนนำในกลุ่มอาเซียน ที่มีความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

วันนี้ (23 ก.ย.62) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา ที่โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ องค์การอนามัยโลก ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข จัดสัมมนาเครือข่ายด้านการจัดการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ระดับนานาชาติ โดยมีตัวแทนจากประเทศสมาชิก ทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 300 คน จาก 40 ประเทศ เข้าร่วมการสัมมนา เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อเตรียมพร้อมรับหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นในประเทศ โดยมีดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาเป็นประธานเปิดงานสัมมนาในครั้งนี้

รมช.สธ. มั่นใจไทยเป็นผู้นำอาเซียน พร้อมรับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การจัดสัมมนาในครั้งนี้ ทางองค์การอนามัยโลกต้องการที่จะจัดประชุมสัมมนากลุ่มระหว่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานด้านสาธารณสุขฉุกเฉิน เพื่อเตรียมความพร้อมศูนย์สาธารณสุขฉุกเฉิน เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินของแต่ละประเทศจึงมีความสำคัญมาก

รมช.สธ. มั่นใจไทยเป็นผู้นำอาเซียน พร้อมรับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

องค์การอนามัยโลกจึงจัดประชุมสัมมนาขึ้นมา เพื่อให้แต่ละประเทศมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ทั้งเรื่องการเตรียมความพร้อม การรับสถานการณ์ การต่อยอดการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความเป็นมืออาชีพในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงถือได้ว่าการประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมที่มีความสำคัญอย่างมาก

รมช.สธ. มั่นใจไทยเป็นผู้นำอาเซียน พร้อมรับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

การประชุมในครั้งนี้ทางองค์การอนามัยโลกได้เลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดสัมมนาขึ้น เพราะมีความเชื่อถือในการบริหารจัดการสถานการณ์ของประเทศไทย เนื่องจากไทยเคยผ่านสถานการณ์ในการควบคุมเรื่องสำคัญในการควบคุมโรคติดต่อ เช่นการควบคุมการระบาดของโรคเมอร์ส เมื่อปี 2558 โดยการดูแลประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี สามารถควบคุมไม่ให้มีผู้ป่วยรายใหม่ และไม่มีการระบาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขของไทย ทั้งด้านการบริหารจัดการ การเฝ้าระวัง รวมถึงทีมบุคลาการ ที่มีศักยภาพและความพร้อม

รมช.สธ. มั่นใจไทยเป็นผู้นำอาเซียน พร้อมรับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

 

การประชุมในครั้งนี้มีประเทศต่างๆ เข้าร่วมประมาณ 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทย และจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะทำให้ต่างประเทศได้รู้จักประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น นอกจากรู้จักทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขและ ยังได้รู้จักประเทศไทยในแง่มุมด้านศิลปวัฒนธรรมไปด้วย

รมช.สธ. มั่นใจไทยเป็นผู้นำอาเซียน พร้อมรับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

สำหรับการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ต้องอาศัยการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน และต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ สำหรับประเทศไทยเอง ถือได้ว่าเป็นประเทศแกนนำในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ได้รับความเชื่อถือ และกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย เพิ่งได้รับรางวัลการแพทย์ฉุกเฉินในภาวะภัยพิบัติ ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทยเองได้รับความน่าเชื่อถือจากองค์การอนามัยโลก และประเทศในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนเป็นอย่างดี ดังนั้นความร่วมมือของกลุ่มประเทศอาเซียนนั้นสามารถที่จะรองรับและเตรียมพร้อมและดูแลสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างดีและพร้อมที่จะพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง

related