svasdssvasds

"ประวิตร" ลงยะลา ตามงานชายแดนใต้ สั่งเดินหน้าปลูก "ไผ่-กาแฟ" พืชเกษตรแห่งอนาคต สร้างรายได้ชุมชนยั่งยืน

"ประวิตร" ลงยะลา ติดตามงานพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ สั่งการศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าดันเกษตรกรปลูกพืชการเกษตรแห่งอนาคต "ไผ่-กาแฟ" เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ที่ยั่งยืนแก่ ปชช. ในพื้นที่พร้อมจับมือภาคเอกชนสนับสนุนด้านการพัฒนาคุณภาพและการตลาด

วันนี้ (26 ตุลาคม 2562 ) ที่อาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามงานพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ศอ.บต. หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมให้การต้อนรับ

"ประวิตร" ลงยะลา ตามงานชายแดนใต้ สั่งเดินหน้าปลูก "ไผ่-กาแฟ" พืชเกษตรแห่งอนาคต สร้างรายได้ชุมชนยั่งยืน

ในการนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังบรรยายสรุปจาก เลขาธิการ ศอ.บต. ในเรื่องความก้าวหน้าการพัฒนาแบบไร้รอยต่อในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมทั้งได้รับฟังข้อเสนอแนะเพื่อเสนอให้รัฐบาลเร่งรัดและผลักดัน ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นการรับฟังบรรยายสรุป รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เยี่ยมชมนิทรรศการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและประสบความสำเร็จ

ต่อมาพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟังความก้าวหน้าการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ประกอบด้วย การขับเคลื่อนโครงการปลูกไผ่เศรษฐกิจ “พืชเศรษฐกิจแห่งอนาคต” ซึ่งเน้นการทำเกษตรผสมผสานเพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรให้มีรายได้รายวัน รายเดือนและรายปี รวมทั้ง เชื่อมโยงการแก้ไขปัญหาความยากจนให้เป็นระบบและครบวงจร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของประชาชนที่ต้องดีกว่าเดิมและเพิ่มช่องทางรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรร่วมกับการปลูกพืชเดิมที่สำคัญ

"ประวิตร" ลงยะลา ตามงานชายแดนใต้ สั่งเดินหน้าปลูก "ไผ่-กาแฟ" พืชเกษตรแห่งอนาคต สร้างรายได้ชุมชนยั่งยืน

พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้มอบพันธุ์ไผ่ให้กับตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 10 ราย และได้กล่าวพบปะให้กำลังใจแก่เครือข่ายเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมขับเคลื่อนการทำงานในพื้นที่ รวมทั้งได้เยี่ยมชมการแสดงนิทรรศการผลิตภัณฑ์และการแปรรูปไผ่ในรูปแบบต่างๆ

จากนั้น พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือการส่งเสริมการปลูกกาแฟครบวงจร ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาเกษตรกรแห่งชาติ และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้การปลูกกาแฟในพื้นที่เป็นแนวพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ให้มีการส่งเสริมอาชีพการปลูกกาแฟ

เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ประชาชนสามารถสร้างรายได้ได้เป็นอย่างดี โดยความร่วมมือจาก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจ “คาเฟ่อเมซอน” พร้อมส่งเสริมให้ความรู้การผลิตกาแฟในพื้นที่เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟดิบที่มีคุณภาพ ผ่านการควบคุมคุณภาพและกระบวนการผลิต ยกระดับเป็น “ศูนย์การเรียนรู้การปลูกและพัฒนากาแฟโรบัสตา” เพื่อสร้าง แบรนด์เมล็ดกาแฟคุณภาพจากพื้นที่ให้เป็นสุดยอดเมล็ดพันธุ์กาแฟที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมทั้ง ให้ผู้บริโภคได้มีส่วนช่วยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านการซื้อกาแฟที่ร้านคาเฟ่อเมซอน

"ประวิตร" ลงยะลา ตามงานชายแดนใต้ สั่งเดินหน้าปลูก "ไผ่-กาแฟ" พืชเกษตรแห่งอนาคต สร้างรายได้ชุมชนยั่งยืน

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบเกียรติบัตรให้กับโรงเรียนที่เข้าประกวดเมโลเดียนพร้อมกับรับชมการแสดงจากโรงเรียนอนุบาลยะลาซึ่งเป็นทีมที่ชนะเลิศการประกวดเมโลเดียน

ทั้งนี้ภายหลังจากเสร็จสิ้นการรับชมการแสดงของโรงเรียน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการเปิด Industrial Park ซึ่งเป็นสวนอุตสาหกรรมแห่งแรกในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งรับฟังแนวทางการดำเนินงานและเยี่ยมชมภายในบริเวณสวนอุตสาหกรรมอีกด้วย

ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในประเด็นการลงพื้นที่ตรวจติดตามงานพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ ว่า การตรวจและติดตามงานด้านการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับทราบงานนโยบายของรัฐบาลที่นำไปปฏิบัติในพื้นที่จนเกิดเป็นผลสำเร็จหลายโครงการ

รวมทั้งการเตรียมการไว้เพื่อดำเนินการในระยะต่อไป ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจ ส่วนราชการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะร่วมมือกันขับเคลื่อน โครงการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่หลากหลายให้เกษตรกรในพื้นที่มีรายได้รายวัน รายเดือน รายปี ให้ได้ผลเป็นรูปธรรม

"ประวิตร" ลงยะลา ตามงานชายแดนใต้ สั่งเดินหน้าปลูก "ไผ่-กาแฟ" พืชเกษตรแห่งอนาคต สร้างรายได้ชุมชนยั่งยืน

โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านโครงการปลูกพืชเศรษฐกิจร่วมกับแปลงเกษตรเดิม เช่น ส่งเสริมการปลูกไผ่ ปลูกไม้เศรษฐกิจตามมติคณะรัฐมนตรี ปลูกพืชกาแฟ พืชอัตลักษณ์ รวมทั้ง งานปศุสัตว์ที่สำคัญในพื้นที่ ได้มีข้อสั่งการไปแล้ว ให้เดินหน้าเต็มกำลังสุดความสามารถ ซึ่งในส่วนนี้ได้มีองค์กรภาคเอกชนเข้ามามีส่วนช่วยสนับสนุนด้านการพัฒนาคุณภาพและการตลาดที่สำคัญ เช่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจคาเฟ่ อเมซอน

นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและ ศอ.บต. ยังจะมีการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมแห่งแรกของจังหวัดชายแดนภาคใต้ บริเวณชั้น 4 อาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาสินค้าฮาลาล ผ่านการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร ให้เป็นสินค้าที่มีความหลากหลายและผลิตในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างรายได้และอาชีพให้กับประชาชน ด้วยเทคโนโลยีการผลิต และเทคโนโลยีชีวะอนามัย

"ประวิตร" ลงยะลา ตามงานชายแดนใต้ สั่งเดินหน้าปลูก "ไผ่-กาแฟ" พืชเกษตรแห่งอนาคต สร้างรายได้ชุมชนยั่งยืน

โดยความร่วมมือจากสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งการขยายผลให้เกิดผลิตผลด้านศิลปะและแฟชั่นมุสลิมไปยังฐานการทำงานในหมู่บ้านให้เป็นไปตามแนวคิด Taobao Village Model และต่อยอดไปยังสถาบันการศึกษาให้เป็นแบบ Taobao University ที่เป็นสถาบันดีไซน์และแฟชั่น สำหรับมุสลิมทั้งภูมิภาคเอเชีย/โลก เพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถเชื่อมไทยและเชื่อมโลกได้อย่างแท้จริง

ด้านการพัฒนาสังคม จะเร่งรัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะการป้องกันและการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด วันนี้ เราต้องร่วมมือกันเต็มที่เพื่อคืนลูกหลานให้กับพ่อแม่และครอบครัว พร้อมกับการเดินหน้าเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ผู้นำศาสนาและสถานศึกษาเพื่อมีส่วนร่วมการป้องกันยาเสพติด การแก้ไขปัญหาโรคระบาดที่สามารถป้องกันได้ด้วยการแพทย์ปัจจุบัน การแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการที่ดีในเด็กเล็ก การเสริมสร้างพัฒนาการให้เหมาะสมกับช่วงวัย โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งโรงเรียนและหนึ่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน และการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทุกฝ่าย ทุกคน จะต้องร่วมใจกันสืบสาน รักษา ต่อยอดให้เป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่ประชุม ในวันนี้ มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญต่อประเด็นการพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชนในพื้นที่ให้มากที่สุด การทำงานต้องเชื่อมโยงการพัฒนาเข้าสู่งานอาชีพ ผ่านโครงการของรัฐที่ทำงานร่วมกับเอกชน อาทิ โครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ทั้ง 4 เมืองต้นแบบ ต้องสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับเยาวชนในพื้นที่ได้ รวมทั้งงานที่รัฐทำร่วมกับเอกชนอีกจำนวนมาก ต้องเปิดโอกาสการพัฒนาเยาวชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีงานทำ มีรายได้และอยู่ร่วมกับครอบครัวได้อย่างปกติสุข รวมทั้ง การจัดระบบดูแล ฝึกอบรมและพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทุกภาคส่วน การขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานสตรีและเด็กจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นศูนย์กลางการนำ NGOs หลายภาคส่วน มาร่วมทำงานในส่วนที่ NGOs สามารถขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังมีโครงการสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการต่อจากนี้ โดยถือเป็นนโยบายสำคัญของงานพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สำคัญ ได้แก่ การออกเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน ทั้งในพื้นที่ของรัฐและนอกรัฐ ซึ่งเป็นปัญหาเดือดร้อนของประชาชนมากว่าครึ่งศตวรรษ ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2565 นี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันเร่งดำเนินการให้เสร็จ เพื่อให้ประชาชนที่ยังไม่มีสิทธิที่ดินทำกินให้มากที่สุด เพื่อให้มีสิทธิทำกินซึ่งถือเป็นจุดยืนสำคัญของประชาชนในสังคมไทยด้วยความภาคภูมิ และสามารถทำมาหากินในผืนแผ่นดินได้ การแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ นอกจากนโยบายในการชดเชยราคาสินค้าเกษตรไปแล้ว จะต้องเสริมสร้างกลุ่มวิสาหกิจในพื้นที่ทำการแปรรูปสินค้าเบื้องต้น โดยให้สำนักงานสวนอุตสาหกรรม เป็นพี่เลี้ยงสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ นอกจากนี้จะส่งเสริมการทำเกษตรผสมผสานมากขึ้นในพื้นที่ โดยมีส่วนราชการจะทำหน้าที่การตลาดและเป็นพี่เลี้ยงให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลัง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-รัฐประหาร “ประวิตร” เชื่อ “ประยุทธ์”

-“ตูน บอดี้สแลม” ออกสตาร์ต “ก้าวต่อไปฯ” หาเงินซื้ออุปกรณ์การแพทย์มอบ 7 รพ. ใต้

-อ้างตัวเลขมั่ว! ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ไฟใต้รุนแรงเกินจริง

-“บิ๊กแดง” ระบุ 2557 สถานการณ์ไฟใต้ดีขึ้น

 

 

 

 

 

related