svasdssvasds

เปิดตัว “ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย” สร้างการรับรู้ รธน. 2560

เปิดตัว “ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย” สร้างการรับรู้ รธน. 2560

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

กระแสรณรงค์ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เคยตก ล่าสุด 27 ตุลาคม ที่ห้องราชดำเนินโรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส หลานหลวง มีการเปิดตัวคณะทำงาน “ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย” นำโดย นายโคทม อารียา ที่ปรึกษาศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป สถาบันเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ตัวแทนมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) ตัวแทนคณะทำงาน 30 องค์กรประชาธิปไตย  สภาองค์กรชุมชนตำบลระดับชาติ ตัวแทนคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ตัวแทนคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ภาคประชาชน ตัวแทนมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.)

 

รวมทั้ง ตัวแทนนักการเมือง อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ นายกษิต ภิรมย์ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และอดีตรมว.ต่างประเทศ  เป็นต้น

 

“ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย” เสนอหลักการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 4 ข้อ

 

1.การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนจากทุกภาคส่วน และเปิดกว้างให้มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพทางวิชาการ และเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างเต็มที่

 

2.ต้องทำให้เนื้อหาในรัฐธรรมนูญเป็นไปตามหลักการที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนโดยสิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต้องได้รับการคุ้มครอง และยุติการสืบทอดอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน

 

3.ต้องทำให้เกิดฉันทามติร่วมกันในสังคม เพื่อยุติความขัดแย้งและสร้างความปรองดองสมานฉันท์

 

4.ต้องทำให้เกิดกระบวนการที่ทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็งมั่นคงขึ้น พร้อมขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศทางด้านต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้  ถกแถลงและปรึกษาหารือกันเพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและประเทศดีขึ้น

 

นายโคทม กล่าวว่า เพื่อดำเนินการตามหลักการข้างต้น ภาคีฯ จะร่วมกันจัดเวทีถกแถลงเพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจว่า ทำไมจึงกล่าวว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2560 เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน   ยึดรัฐราชการเป็นศูนย์กลาง จึงไม่อาจแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนได้ ทั้งนี้ “รัฐธรรมนูญต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง” อันจะเป็นทางออกของการแก้ปัญหาประเทศชาติและประชาชนที่ดีกว่า นอกจากนี้ ภาคีฯจะจัดให้มีคณะกรรมการอำนวยการทำหน้าที่ประสานงานเพื่อดำเนินการและจัดกิจกรรม โดยมีรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยเป็นจุดหมาย

 

สำหรับไฮไลท์ “นายอนุสรณ์” เผยว่า ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย จะเดินสายพบปะหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึงประธานรัฐสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเชิญชวนให้หาทางออกร่วมกัน โดยจะเสนอให้มีการเปิดวงทีถกแถลงแห่งชาติ เป็นการเปิดเวทีใหญ่ระดมความเห็น  แล้วตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ รูปแบบคล้าย “สสร.ปี 2540” ให้มีตัวแทนจังหวัดละ 1 คน รวมเป็น 77 คน และมีผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ 15-20 คน แต่งตั้งโดยสภาฯ พร้อมกันนี้ ยังมีตัวแทนภาคประชาชน สถาบันวิชาการ เอ็นจีโอ 10-15 คน ส.ส.10 คน ส.ว. 5 คน นำไปสู่การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ต่อไป นอกจากนี้ยังจะมีกิจกรรมเดิน-วิ่ง งานระดมทุน และการจัดประชุมอย่างต่อเนื่อง

 

“นายอนุสรณ์” เล่าว่า ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จเมื่อใด แต่ต้องการสร้างความรับรู้เกี่ยวกับปัญหาของรัฐธรรมนูญ 2560 อันจะนำไปสู่การแก้ไข เพราะประเทศไทยไม่อาจพัฒนาได้ด้วยรัฐธรรมนูญเช่นนี้

related