รองโฆษกพรรคเพื่อไทย อัดนายกฯ พูดไม่คิด เปลี่ยนชื่อ7วันอันตราย ชี้ไม่ใช่การแก้อุบัติเหตุ แนะต่อไปจะพูดอะไรให้ระวังมากกว่านี้
ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้จะขึ้นปีใหม่แล้ว แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับยังพูดและคิดแบบไม่เข้าท่าเหมือนเดิม โดยเฉพาะการเสนอไอเดีย เปลี่ยนชื่อเรียก 7 วันอันตราย เพื่อลดอุบัติเหตุ ทั้งที่ไม่ใช่การแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ถูกจุด แต่ต้องแก้ด้วยการปลูกฝังจิตสำนึกการเคารพกฎจราจรของประชาชน และรณรงค์ให้ลดการบริโภคสิ่งมึนเมาต่างๆ โดยต้องปลูกฝังตั้งแต่ยังเป็นเด็ก รวมทั้ง ต้องออกแบบและบำรุงรักษาถนนหนทางให้ปลอดภัยสำหรับการขับขี่ เป็นต้น แต่เชื่อว่า รัฐบาลประยุทธ์ คงทำไม่สำเร็จหรอก ตราบใดที่ผู้ผลิตสุราหรือเจ้าของอบายมุขรายใหญ่ ๆ ของประเทศยังเป็นผู้สนับสนุนหลักของรัฐบาลอยู่อย่างนี้ เพราะถ้ายอดขายตก นายทุนเหล่านี้จะเอาเงินที่ไหนมาให้รัฐบาล
ส่วนที่ พล.อ. ประยุทธ์ ตำหนิและพูดเหยียดคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ชอบไปจอดรอไฟแดงบังหน้ารถเก๋งนั้น แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เห็นใจหัวอกคนทำมาหากินที่เขาต้องรีบเดินทางให้ถึงจุดหมายปลายทางเช่นกัน แต่ประชาชนตาดำๆ
เขาไม่ได้มีรถนำขบวนเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ เขาจึงต้องทำอย่างนั้น หาก พล.อ.ประยุทธ์ อยากบอกให้เขาเคารพกฎจราจร พล.อ. ประยุทธ์ ก็ต้องสื่อสารอีกแบบหนึ่ง โดยควรเลือกใช้คำพูดอื่น เพราะพูดแบบนี้ ฟังแล้ว อาจเข้าใจว่าคนจนไม่มีสิทธิจะรีบไปไหนบ้างหรือยังไง
ทั้งนี้ คนเป็นนายกฯ ควรต้องระมัดระวังการใช้คำพูดให้มากกว่านี้ เพราะการใช้ภาษาถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และสามารถนำไปสู่ความแตกแยกในสังคมได้ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะพูดอะไรก็ควรระวังมากกว่าคนอื่น ๆ เพราะท่านกำลังสวมหัวโขนนายกฯ ซึ่งการที่ท่านพูดแบบนี้ มันสะท้อน ความกลวงและความไม่ระวังปากข้ามปีข้ามชาติของนายกฯ แต่หากมันยากเกินไปสำหรับพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะพัฒนาตัวเอง ท่านก็ควรถอดหัวโขน แล้วลาออกไป คนอื่นจะได้ถือโอกาสเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำเพราะความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลประยุทธ์ไปในคราวเดียวกัน