ลุงตู่ เยือนพะเยา เตรียมพัฒนาแหล่งน้ำสำคัญ ชี้ชาติต้องการความสามัคคี

วันนี้ ( 12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ซึ่งประกอบพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย , นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ , ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และคณะฯได้เดินทางไปตรวจและติดตามโครงการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพะเยา ณ หนองเล็งทราย อ.แม่ใจ จ.พะเยา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำที่ส่งต่อให้กว๊านพะเยาและเป็นเส้นเลือดใหญ่ของชาว อ.แม่ใจ

โดยคณะนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 ค่ายพญางำเมือง ในเวลา 08.45 น.จากนั้นออกเดินทางไปยังวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง ต.เวียง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา เพื่อสักการะพระพุทธรูปพระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองขนาดใหญ่ที่สุดในล้านนา พร้อมกราบสรีระสังขารพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ และนมัสการพระสุนทรกิตติคุณ (เดชา อินฺทปญฺโญ) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง เจ้าคณะอำเภอเมืองพะเยา

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สนทนากับเจ้าอาวาส และได้สอบถามถึงสภาพอากาศ และสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จ.พะเยา รวมถึงเรื่องความรักความสามัคคีในพื้นที่ คงไม่มีใครทะเลาะเบาะแว้ง วันนี้ตนรู้สึกดีใจที่เห็นเมืองพะเยามีความความสงบเรียบร้อย ผู้คนรักใคร่สามัคคีกันเป็นอย่างดี เพราะถ้าคนไทยไม่รักกันแล้วใครจะรักกัน จะแบ่งพวกกันมากๆ ไม่ได้ เพราะชาติต้องการความสงบ ความรักและความสามัคคี

โดยหากต้องการความช่วยเหลือสิ่งใด ขอให้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หรือรมช.เกษตรและสหกรณ์ที่ดูแลพื้นที่ ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก็ตาม เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องแก้ปัญหา ส่วนวันนี้ตนก็ต้องมาดูแลคนอื่นด้วย รัฐบาลมีหน้าที่ต้องทำแบบนี้

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทักทายประชาชน ส่วนหนึ่งมารอให้การต้อนรับ ซึ่งนายกฯ กล่าวกับประชาชน ขอให้ทุกคนมั่นใจกับสิ่งที่รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาและขณะนี้ แต่อยากให้เข้าใจว่าในหลายๆ เรื่อง ไม่สามารถแก้ไขได้ในทันทีทันใด ทั้งเรื่องปัญหาของใช้แพง ปัญหาการเกษตร รวมถึงปัญหาฝุ่นควัน

โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของการเกษตรขณะนี้ อยากให้ทุกคนช่วยกันคิดว่าจะปลูกในรูปแบบเดิมต่อไปได้อีกหรือไม่ หรือต้องมีการพัฒนาต่อยอดอย่างไร พร้อมกล่าวทิ้งท้ายกับประชาชนที่มาทำบุญในวันนี้ รู้สึกดีใจที่หลายคนนำธรรมะมาใช้ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ซึ่งช่วยขัดเกลาให้เป็นคนดีได้

จากนั้นร่วมเล่นอังกะลุงกับวงดนตรีผู้สูงอายุครูเอ๊ด อังกะลุง ในบทเพลงที่ชื่อว่า “พะเยารอเธอ” ของศิลปินสุริยัน บุญยศ ก่อนทักทายและให้กำลังใจผู้สูงอายุ โดย นายกฯ กล่าวว่า แม้จะทำงานหนัก แต่ก็ตั้งใจทำเพื่อทุกคน

ก่อนจะกล่าวหยอกล้อ เป็นบทเพลงหนึ่งใจความว่า “เจ็บใจคนรักโดนรังแก” ซึ่งเป็นเนื้อหาหนึ่งในเพลง ผู้ชนะ 10 ทิศ ก่อนเดินทางต่อไปยังหนองเล็งทราย อ.แม่ใจ จ.พะเยา เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาหนองเล็งทราย

เมื่อถึงหนองเล็งทราย มีการ “ฟ้อนเล็บอำเภอแม่ใจ” ของกลุ่มแม่บ้าน นายกมล เชียงวงค์ ผวจ.พะเยา กล่าวต้อนรับ ,ชมวีดิทัศน์การพัฒนาจังหวัดพะเยา ,ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน รายงานการบริหารจัดการน้ำในหนองเล็งทราย , นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรรายงานการเตรียมการรับสถานการณ์ภัยแล้ง

ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP ของจังหวัดพะเยา และจบลงที่นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณส่วนราชการและประชาชนที่มาให้การต้อนรับ  พร้อมทั้งเน้นย้ำให้รักสามัคคี อย่าเชื่อคำยุยงให้รักหรือเกลียดใคร เพราะไม่มีผลดีต่อประเทศชาติ

ส่วนเรื่องการบริหารจัดการน้ำทางรัฐบาลจะดูและสนับสนุนตามสมควร ตามลำดับความสำคัญและเน้นย้ำว่าเป็นนายกฯของทุกภาค ทุกจังหวัด ไม่มีการเลือกปฏิบัติอย่างแน่นอน จากนั้นเดินไปดูทำการทำงานของเรือขุดและอุปกรณ์ที่จะใช้พัฒนาหนองเล็งทรายให้สามารถเก็บกักน้ำได้มากขึ้น แล้วเดินทางไปยังจุดจอด ฮ. กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดจอด ฮ. ท่าอากาศยานน่านนคร ต.ผาสิงห์ อ.เมือง จ.น่าน โดยเฮลิคอปเตอร์

สำหรับการมาติดตามโครงการบริการจัดการน้ำและพัฒนาหนองเล็งทรายในครั้งนี้ ชาวอำเภอแม่ใจได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือในการพัฒนาหนองเล็งทรายด้านการบริหารจัดการน้ำ 4 โครงการ และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ 5 โครงการ รวมเป็นเงินที่ขอไปในครั้งประมาณ 400 ล้านบาท หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดน่านต่อไป