พรรคเพื่อไทย ประชุมความพร้อมโค้งสุดท้าย ก่อนเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้ข้อสรุปส่ง 18 ส.ส. ลงสนาม ด้าน “หญิงหน่อย” ร่วมวงประชุมบอกให้กำลังใจ วอนอย่ามองเป็นเรื่องขัดแย้ง
คณะทำงานของพรรคเพื่อไทยและส.ส. ของพรรคเพื่อไทย นัดประชุมแกนนำ เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาตร์พรรคเพื่อไทย, นายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรค, นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา กรรมการยุทธศาสตร์พรรค, นายวัฒนา เมืองสุข เพื่อเตรียมอภิปรายในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป โดยลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ช่วงวันที่ 24-28 กุมภาพันธ์นี้
ทั้งนี้ก่อนการหารือดังกล่าว น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่าเป็นการประชุมเตรียมความพร้อมในโค้งสุดท้าย ทั้งนี้ส่วนของผู้อภิปรายพรรคเพื่อไทยมีข้อสรุปรวม 18 คน และจัดลำดับ คือ
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้อภิปรายนำญัตติ ต่อด้วยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย จะเป็นผู้อภิปรายในเนื้อหา ข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ทำให้สังคมเห็นถึงความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดิน ความไร้ประสิทธิภาพ และการทุจริตรวมถึงมีส่วนร่วมต่อการทุจริต ภายใต้การบริหารของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ขณะที่ส.ส.ที่อภิปรายอีก 17 คนที่เหลือนั้น จะอภิปรายในข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับคลิปวีดีโอ ภาพนิ่ง แผ่นชาร์จ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจต่อการอภิปรายได้ง่าย นอกจากส.ส.ที่อภิปรายแล้ว ยังมีส.ส.ที่วางตัวให้เป็นคณะรักษาความสงบภายในห้องประชุม เช่นเดียวกับฝั่งรัฐบาลที่ตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี
“การอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยจะเป็นการนำเสนอแบบใหม่ ภายหลังจากที่ส.ส.อภิปรายแล้วเสร็จ จะทำข้อสรุปของการอภิปราย ประมวลเป็นเนื้อหาสั้นๆ เพื่อให้ประชาชนที่ไม่ได้ฟังการอภิปรายติดตามเนื้อหาสาระ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยมั่นใจในการอภิปรายที่จะทำให้ประชาชนเห็นถึงข้อมูล และให้ประชาชนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถปล่อยให้รัฐบาลได้รับความไว้วางใจในการบริหารได้ เพราะจะทำให้ประเทศชาติตกต่ำ” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงด้วยว่า เหตุผลที่มี ส.ส.อภิปรายมากถึง 18 คน เพราะพรรคไม่เน้นซุปเปอร์สตาร์ แต่จะเน้นให้เห็นถึงทีมเวิร์ค การอภิปรายจะกระชับ ไม่ยาว โดยผู้ได้รับมอบหมายให้อภิปรายจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
ส่วนผลการอภิปรายยืนยันจะดำเนินคดีต่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายแน่นอน เบื้องต้นแบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1.กรณีที่พบใบเสร็จ มีเงินทอน มีรายได้ โดยล่าสุดพบแล้วไม่ต่ำกว่า 6 กรณี แต่กรณีจะยื่นให้หน่วยงานตรวจสอบทางอาญาทั้งหมดหรือไม่นั้น ต้องรอฟังคำชี้แจงจากรัฐมนตรีอีกครั้ง หากพบคำชี้แจงที่ชัดเจนจะไม่ยื่นให้ดำเนินคดี และ 2. กรณีไม่มีใบเสร็จ แต่เป็นการทุจริตเชิงโครงสร้าง ที่พบพฤติกรรมที่อาจทำให้เกิดการทุจริตได้ในระยะยาว รวมถึงเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนรังแกประชาชนและคนจน ซึ่งตนมั่นใจว่าหลังการอภิปรายแล้วเสร็จจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลที่มีจิตสำนึก เรียกร้อง หรือยื่นคำขาดไปยังแกนนำรัฐบาลได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมาให้กำลังใจทีมพรรคเพื่อไทย โดยตนขอเรียกร้องว่าอย่ามองเป็นประเด็นความขัดแย้ง ที่ผ่านมาตนสนับสนุนการทำงานของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ที่เป็นผู้นำการอภิปราย
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดิฉันเดินทางมาที่รัฐสภา เพราะก่อนหน้านี้มาหลายครั้งแล้ว และเชื่อว่าการเตรียมข้อมูล การสนับสนุนข้อมูลที่ผ่านมาจะเป็นประโยชน์ต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเชื่อว่าการดำเนินคดีกับรัฐมนตรีหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นได้แน่นอน”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว