svasdssvasds

"เพื่อไทย" ชง 3 ข้อ เยียวยาเศรษฐกิจ เร่งช่วยเหลือผู้ที่ประสบผลกระทบโควิด19

"เพื่อไทย" ชง 3 ข้อ เยียวยาเศรษฐกิจ เร่งช่วยเหลือผู้ที่ประสบผลกระทบโควิด19

"ศูนย์โควิดพรรคเพื่อไทย" เสนอ 3 มาตรการ จี้ รัฐบาล เร่งช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เรียกร้อง เยียวยาผู้ใช้แรงงาน ที่ได้รับผลกระทบ เสนอให้พักชำระหนี้ผู้ประกอบการรายเล็ก ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน และพักชําระหนี้เกษตรกรทุกชนิด 6 เดือน หากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น

วันนี้ (23 มี.ค.63) ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เปิดเผยว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ เกิดจากความสับสนในการดำเนินงานการออกมาตราการ การประสานงานของรัฐบาล จนเกิดความเสี่ยงกับประชาชน โดยมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้คือ การมีศูนย์รวมในการสั่งการที่ชัดเจน มีศูนย์แถลงข่าวเพียงศูนย์เดียว เพื่อให้เกิดการปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพ และหลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการปิดสถานประกอบการ ทำให้พนักงาน ลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน รวมถึงธุรกิจเอสเอ็มอี ทั้งภาคท่องเที่ยว ร้านอาหาร ร้านค้าปลีกรายเล็ก ได้รับผลกระทบ จึงขอเสนอให้รัฐบาลออกมาตรการทางเศรษฐกิจ มีรายละเอียดดังนี้

"เพื่อไทย" ชง 3 ข้อ เยียวยาเศรษฐกิจ เร่งช่วยเหลือผู้ที่ประสบผลกระทบโควิด19

1. มาตรการสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ต้องถูกเลิกจ้าง คนตกงาน และถูกพักงาน

โดยการให้เบี้ยยังชีพ สำหรับคนที่ต้องออกจากงาน ตกงาน หรือพักงาน เดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน หากมีงานทำก่อนให้ยกเลิกการให้เบี้ยยังชีพ พักชำระหนี้ให้ประชาชน ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยทุกประเภท ทั้งหนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนเครื่องมือทำการเกษตร หรือผ่อนเครื่องมือทำมาหากินอย่างเช่นคอมพิวเตอร์ ที่ป็นหนี้มาก่อน ไม่ใช่หนี้ใหม่ เป็นเวลา 6 เดือน ก่อนเป็นเบื้องต้นนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้ประชาชนทุกประเภท

"เพื่อไทย" ชง 3 ข้อ เยียวยาเศรษฐกิจ เร่งช่วยเหลือผู้ที่ประสบผลกระทบโควิด19

สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังต้องถูกกักตัว 14 วัน ต้องจ่ายชดเชยรายได้ให้คนละ 5,000 บาท ช่วยลดค่าน้ำค่าไฟให้ผู้มีรายได้น้อยใช้ไม่เกิน 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน สำหรับเด็กนักเรียนที่ต้องเรียนออนไลน์ และพนักงานที่ต้องทำงานจากบ้านให้ใช้อินเตอร์เน็ตฟรี โดยรัฐเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ รวมทั้งให้เอกชนช่วยสนับสนุนบางส่วน ขอความร่วมมือภาคเอกชนงดเก็บค่าเช่าให้แก่ผู้ประกอบการรายเล็กอย่างน้อย 3 เดือน โดยลดภาษีให้ผู้ประกอบการ

2. มาตรการสำหรับภาคธุรกิจ

สำหรับมาตรการสำหรับภาคธุรกิจ ทั้งผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลาง SMEs กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มผู้ผลิต ขนาดเล็กขนาดกลาง ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร รับจัดอีเว้นท์ สปา ฯลฯ ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด เสนอให้พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือนก่อนในเบื้องต้น นับตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นต้นไป ลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลางที่ได้รับผลกระทบ ให้เหลือร้อยละ 3 พร้อมทั้งปรับโครงสร้างหนี้ ให้สินเชื่อเพื่อต่อชีวิตธุรกิจ ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ SMEs

"เพื่อไทย" ชง 3 ข้อ เยียวยาเศรษฐกิจ เร่งช่วยเหลือผู้ที่ประสบผลกระทบโควิด19

 

โดยให้ธนาคารแห่งประเทศไทยผ่อนปรนหลักเกณฑ์ในการให้สินเชื่อ และค้ำประกันเงินกู้ให้ธนาคารพาณิชย์ ให้เงินอุดหนุนนายจ้างไม่ให้เลิกจ้างพนักงาน โดยช่วยสนับสนุนค่าจ้างพนักงานบางส่วน ลดราคาน้ำมันตามราคาตลาดโลก โดยเฉพาะให้ยกเลิกการเก็บภาษีน้ำมันดีเซล เพื่อลดต้นทุนการผลิต เลื่อนการจ่ายภาษีนิติบุคคลออกไปอีก 6 เดือน สำหรับธุรกิจ SMEs และธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ

3. มาตรการสำหรับเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งและกำลังมีปัญหาผลกระทบจากโควิด 19

"เพื่อไทย" ชง 3 ข้อ เยียวยาเศรษฐกิจ เร่งช่วยเหลือผู้ที่ประสบผลกระทบโควิด19

 

สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ได้รับผลกระทบ โดยให้พักชําระหนี้เกษตรกรทุกชนิด 6 เดือน หากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น อาจขยายเวลาเพิ่มขึ้นได้ เร่งจ่ายชดเชยค่าภัยแล้ง ไร่ละ 2,500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ ส่วนเกษตรกรที่มีพื้นที่น้อย ให้ขั้นต่ำรายละ 25,000 บาท จัดสรรเงินโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน และชุมชม จำนวน 500,000-1,000,000 บาท ให้หมู่บ้านนำไปพัฒนาแหล่งน้ำ ถนนในหมู่บ้าน โดยให้ใช้แรงงานในพื้นที่เท่านั้น

ด้าน คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เรียกร้องให้รัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนงบประมาณในแต่ละกระทรวงที่ไม่จำเป็น มาใช้ในการแก้ปัญหา หรือ ซื้อเครื่องมือแพทย์ รวมถึงปรับวิธีใช้งบประมาณทั้งส่วนราชการส่วนกลาง งบกลาง งบท้องถิ่น งบส่วนภูมิภาค แต่ทั้งนี้ต้องให้อำนาจผู้ว่าราชการมีอำนาจในการดำเนินการ เพราะตอนนี้มีเพียงการสั่งการให้ท้องถิ่นดำเนินการตามมาตรการ แต่ไม่มีการมอบอำนาจในเรื่องของการใช้งบประมาณส่วนใดมาดำเนินการ ทำให้ท้องถิ่นรู้สึกกังวล

ทั้งนี้ ในส่วนหัวหน้าศูนย์โควิด-19 พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เท่าที่ทราบขณะนี้เครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอในการรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ จึงอยากให้รัฐบาลอาจจะเจรจาติดต่อกับประเทศจีน เพื่อทำจีทูจี ช่วยเหลืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเรื่องนี้อาจทำให้งบประมาณต่างๆเกิดการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่เมื่อเปรียบแล้วหากรัฐบาลจะทำห้องไอซียูที่สมบูรณ์ ต้องใช้งบประมาณมูลค่า 5 ล้านบาท หากรัฐบาลไม่นำงบประมาณไม่ซื้อเรือดำน้ำมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท รัฐบาลก็จะสามารถทำห้องไอซียูได้ถึง 6,000 ห้อง นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ กล่าว

related