"พันธ์ยศ" เดินหน้าช่วยสังคม แจกหน้ากากอนามัย​ ต้าน Covid-​19

วันนี้ (25 มี.ค. 63) - นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ​ กล่าวว่า​ ตั้งแต่ที่มีกระแสข่าวว่าตนมีส่วนร่วมกับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย​ เพื่อส่งไปขายต่างประเทศนั้น และได้ไปพบกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้​ รวมทั้งชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น​มาก่อนหน้านี้​ ซึ่งในปัจจุบันเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาตนแต่อย่างใด​ ซึ่งตนก็พร้อมที่จะแสดงความบริสุทธิ์ในเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“ขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใด เรียกหรือแจ้งข้อกล่าวหามา จะมีก็เพียงเรียกไปเป็นพยานในคดี พรบ.คอมพิวเตอร์ ของนายบอย ศรสุวีร์​ เท่านั้นและตนก็ได้ให้การตามความเป็นจริง ไปเรียบร้อยแล้ว และถ้าหากมีก็พร้อมจะให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ” นายพันธ์ยศ ระบุ

นายพันธ์ยศ​ กล่าวว่า ตนยังมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อสังคมแม้จะเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นมาในหลายวันก่อนแต่ตนก็ยังนำหน้ากากอนามัย​ไปมอบให้หน่วยราชการและภาคสังคม ตามที่ได้ตั้งใจไว้ เพราะความจริงที่ทุกคนทราบคือวันนี้หน้ากากอนามัย เจลเเอลกอฮอล์หาซื้อได้ลำบากตามสถานที่ต่างๆ​ ซึ่งเรื่องนี้ตนก็มีคนรู้จักที่พร้อมจะช่วยส่วนราชการและสังคมในการดูแลสุขภาพของเจ้าหน้าที่รัฐและคนไทย ตนจึงได้หาและส่งมอบหน้ากากอนามัยเพื่อกระจายไปทั่วประเทศ​ ในพื้นที่ขาดแคลนแบบไม่คิดมูลค่า​ เพราะตนตั้งใจจะช่วยเหลือทุกฝ่ายในสังคมและฝากไปยังทุกภาคส่วนด้วยว่าหากพอมีกำลังก็อยากขอให้ช่วยเหลือสังคมกันให้เต็มที่ เพราะวิกฤตนึ้ต้องอาศัยความสามัคคีและกำลังใจของคนในชาติ ในการก้าวผ่านปัญหาไปด้วยกันได้​ รวมทั้ง บรรเทาภาระของรัฐบาลที่ต้องทำงานหนักในหลายด้าน

นายพันธ์ยศ​ กล่าวว่า ตนและคนรู้จักตั้งใจจริงในการช่วยเหลือสังคมวันนี้หลายภาคส่วนยังขาดแคลนในเรื่องนี้ ตนจึงช่วยเหลือในศักยภาพที่พอจะดำเนินการได้และไม่หวังผลตอบแทน

“ฝากทุกภาคส่วนว่าหากพอมีกำลังช่วยสังคมกันด้วยผมและเพื่อนๆช่วยสังคมเท่าที่พอจะทำได้วันนี้บ้านเมืองตื่นตระหนกไปหมดกับไวรัสโควิด-19​ แต่ผมเชื่อว่าหากทุกคนทำตามคำเเนะนำของทีมแพทย์และนโยบายในการแก้ไขปัญหา​ของรัฐบาล​ เราก็จะผ่านวิกฤตนี้ไปได้​ แม้ว่าตอนนี้หลายคนจะพบความลำบากในการดำรงชีวิตแต่ขอให้อดทน คนไทยไม่ทิ้งกันอยู่เเล้ว ผมเชื่อเช่นนั้น​” นายพันธ์ยศ​ ระบุ

นายพันธ์ยศ กล่าวว่า ตอนนี้ขอให้ทุกส่วนในสังคมปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลและอย่าตระหนกกับกระแสข่าวในบางด้านที่ไม่เป็นความจริง ควรไตร่ตรองและรอฟังข้อเท็จจริงจากรัฐบาลในทุกกรณีเสียก่อน และขอให้เชื่อมั่นว่าพวกเราทุกคนจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน