'ช่อ' เมิน คดีหมิ่นประมาท ชี้ มีเรื่องสำคัญกว่านี้เยอะ ซัด 'ดอน' พูดคลาดเคลื่อน ปม 'วันเฉลิม' โยง ม.112 สวนกลับ ในอดีตสหรัฐฯ เคยแสดงความกังวลต่อการใช้ ม.112 ในไทย
ช่อ พรรณิการ์ วันนี้ (11 มิ.ย. 63) - น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่สถานีตำรวจลุมพินี กรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เข้าแจ้งความฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 62 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเพิ่งได้รับทราบเมื่อ 2-3 วันก่อน ซึ่งหมายเลขไม่ได้ลงรายละเอียด ระบุเพียงแค่เป็นหมายเรียกคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ส่วนตัวเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ จึงขอปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนระยะเวลาตั้งแต่การร้องทุกข์จนถึงการออกหมายเรียกวันนี้จะช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าคดีไหนสังคมให้ความสนใจก็จะเร่งรัดทำคดี ส่วนประเด็นนี้ผ่านมาแล้วเกือบปี จึงเป็นไปได้ว่าตำรวจเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ถ้ามีเหตุอื่นใดให้เกิดการเร่งรัดขึ้นมา ก็คงต้องฝากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณ
อย่างไรก็ตาม น.ส.พรรณิการ์ ยืนยันว่าทุกคนมีสิทธิ์เสรีภาพในการแสดงความเห็นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับผู้ร้องทุกข์หากคิดว่าได้รับความเสียหายก็มีสิทธิ์จะฟ้องร้องเช่นกัน ทั้งนี้ตนมั่นใจว่าสิ่งที่ทำเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจและหวังดีต่อสังคม
ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่ตนมองว่าสำคัญกว่า อาทิเช่นการแก้ปัญหาโควิดผ่านกลไกสภาผู้แทนราษฏร หรืออย่างล่าสุดกรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัย ส่วนตัวเพิ่งไปเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการมาวันนี้ ซึ่งเป็นเคสที่รัฐบาลไทยต้องรับผิดชอบโดยตรงเพราะเป็นการบังคับสูญหายของคนไทย แต่คำตอบในสภาฯ ไม่อาจทำให้ประชาชนพอใจได้ ดังจะเห็นได้ว่ามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งตนได้ติดตามการตอบกระทู้สดเมื่อวาน และได้เห็นนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ตอบกระทู้สดโดยมีสองประเด็นที่ทำให้ตนผิดหวัง คือ แทนที่้จะสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน หรือกระตือรือร้นในการหาหลังฐานและแสดงความรับผิด ชอบ กลับมองว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ มีเพียงคนกลุ่มน้อยที่มีปัญหา ทั้งที่พันธกิจของกระทรวงต่างประเทศคือดูแลพลเมืองไทยทุกคน ประการที่สอง นายดอน ยกคำพูดที่ไม่มีหลักฐานมากล่าวต่อสภาฯ ในประเด็น ม.112 ว่ามีการพูดคุยกับทูตแล้ว และไม่ใช่เรื่องสำคัญ ประเทศไหนๆก็มีกัน ทำนองว่าไม่มีใครติดใจกับเรื่องนี้
หากแต่ข้อเท็จจริงบางส่วนไม่ได้เป็นเช่นนั้น เป็นต้นว่า เมื่อปี 2559 ทางทูตสหรัฐอเมริกาเคยแสดงความกังวลต่อการใช้ ม.112 เพราะเป็นการละเมิดสิทธิในการแสดงความคิดเห็น ส่วนประเด็นช้อถกเถียงเรื่องการข่มขืนเวลานี้ ส่วนตัวเห็นว่า ควรใช้โอกาสนี้ให้สังคมมาถกเถียงอย่างจริงจังถึงวิธีการป้องกันการข่มขืนว่าคืออะไรกันแน่