"ไพบูลย์" ลั่นใครจะฟ้อง ก็มาฟ้องตนด้วย เหตุเทียบเชิญ "บิ๊กป้อม" ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ

พลังประชารัฐ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงบรรยากาศ เมื่อวานนี้ที่แกนนำของพรรคไปเทียบเชิญพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอนั่งหัวหน้าพรรคว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

โดยเป็นการเข้าไปขอเข้าพบ เพื่อขอร้องให้พลเอกประวิตร มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะพลเอกประวิตรเป็นเสาหลักของพรรค เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพและทำให้พรรคเข้มแข็งขึ้น ซึ่งการไปขอร้องนั้น แกนนำก็พากันไป ในที่ที่พลเอกประวิตรสะดวก

ส่วนตัวขอยืนยันว่าพลเอกประวิตร ไม่ได้อยากจะเป็นหัวหน้าพรรคจริงๆเลย แต่ด้วยเหตุผลต่างๆจึงต้องยอมรับตำแหน่ง และทุกคนในพรรคก็มีความต้องการที่อยากจะให้พลเอกประวิตรมาเป็น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสถานที่ที่ไปกันนั้นใช่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ หรือไม่ นายไพบูลย์ระบุว่า ก็เป็นสิ่งที่ผู้สื่อข่าวนั้นทราบอยู่แล้ว โดยเข้าไปใช้เวลาไม่นาน

ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะไปร้องเรียนยังปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะนายทะเบียนมูลนิธิตามกฎหมาย และร้องเรียนต่อป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการกระทำดังกล่าว ว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของมูลนิธิที่ระบุไว้คือห้ามเกี่ยวข้องกับการเมือง ว่ามีสิ่งที่ผิดกฎหมายและฝ่าฝืนต่อจริยธรรมหรือไม่

นายไพบูลย์ ยืนยัน ไม่เป็นการผิดกฎหมายอย่างแน่นอน พร้อมเปรียบว่าถ้ามูลนิธิเป็นสถานที่ราชการ งั้นนักการเมืองก็ห้ามไปกกต.สิ

นายไพบูลย์บอกต่ออีกว่า ตนตั้งมูลนิธิมามาก ซึ่งก็จะมีข้อบังคับอยู่ว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ที่ไปนั้นคือไปหาพลเอกประวิตรไม่ใช่ไปหามูลนิธิ และที่ไปเนื่องจากว่าพลเอกประวิตรสะดวก ยืนยันว่าไม่ได้ใช้พื้นที่ของมูลนิธิเพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง

ส่วนหากใครมองว่าเป็นเรื่องผิด จะดำเนินการไปฟ้องก็ไปฟ้องได้เลย และตนก็อยู่ในนั้นหากจะฟ้องก็มาฟ้องตนด้วย ยืนยันไม่เห็นว่าผิดตรงไหน

ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์หากพลเอกประวิตรมาเป็นหัวหน้าพรรคจะถูกมองว่าเป็นพรรคของทหารนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า คนที่เคยเป็นทหาร และมาเป็นนักการเมืองถือว่าเหมาะที่สุด เพราะทหารเสียสละเพื่อชาติ และการที่ทหารมาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองจึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเทียบกับอาชีพอื่นแล้ว ทหารมาเป็นนักการเมืองถือว่าดีที่สุด

ส่วนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะเกิดขึ้นวันที่ 27 มิถุนายนนี้ จะมีการเสนอ2วาระการประชุม เรื่องปรับเปลี่ยนโครงสร้าง เดิมกก.บห.มี34 จะเหลือ29 คน มีรองหัวหน้าพรรค 9 คน ซึ่ง นายอุตตม สาวนายน รักษาการหัวหน้าพรรคจะมาทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมเชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยดี