จ่อตั้ง"วันสต๊อปเซอร์วิส" ช่วยเเรงงานเมียนมา-กัมพูชา 

จ่อตั้ง"วันสต๊อปเซอร์วิส"  ช่วยเเรงงานเมียนมา-กัมพูชา 

 -25 ก.ค.60 - พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงภายหลังการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องแรงงานต่างด้าว เนื่องจากสัปดาห์ก่อน ตามที่ได้มีพ.ร.ก.จัดการแรงงานต่างด้าวปี 2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้ แต่มีบางมาตราที่มีโทษรุนแรง นายจ้างถูกปรับสูง ลูกจ้างถูกจำคุก โดยคสช. ได้ออกคำสั่งมาตรา 44 ชะลอการบังคับใช้กฎหมายออกไปถึงวันที่ 1 ม.ค. 2561 เพื่อให้แรงงานได้กลับไปจัดการเรื่องเอกสารให้เรียบร้อย ซึ่งเฉลี่ยแล้วใช้เวลาจัดการ 2 เดือน 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่า   ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงให้กระทรวงแรงงาน ดำเนินการให้นายจ้างและลูกจ้างเดินทางไปแจ้งข้อมูลระหว่านายจ้างและลูกจ้าง ที่ศูนย์จัดหางานตามจังหวัดต่างๆ ว่าทำงานในตำแหน่งใด มีที่พักอย่างไร ในส่วนของกรุงเทพมีอยู่ 11 จุดให้แจ้งคือ กระทรวงแรงงาน, ไอทีสแควร์ หลักสี่พลาซ่า, กรมยุทธศึกษาทหารบก, สวนกีฬารามอินทรา, ธัญญาพาร์ค, หอประชุมมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สุวรรณภูมิ, สถานีขนส่งสายใต้ ชั้น 2, กองความปลอดภัยด้านแรงงาน, อาคารสโมสรวังนันทอุทยาน, สำเพ็ง 2 พาร์ค เฟส 3 และ ที่ศูนย์กีฬาบางขุนเทียน เคหะชุมชุนธนบุรี 3 โดยสามารถแจ้งได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. - 7 ส.ค. 

พล.ท.สรรเสริญกล่าวอีกว่า หลังจากแจ้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว การขับเคลื่อนต่อไปคือการตั้งศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส อย่างในกรณีแรงงานชาวกัมพูชา และเมียนมาที่ผิดกฎหมาย ที่เดิมต้องกลับไปบ้านเกิดเพื่อจัดการเอกสาร  ไทยได้เจรจากับทั้งสองประเทศ ซึ่งสามารถส่งเจ้าหน้าที่ มาร่วมทำงานกับไทยได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางกลับไปบ้านเกิด สามารถตรวจสัญชาติ ตรวจวีซ่า ตรวจสุขภาพแรงงานของเขาในไทยได้ ถือว่า คือมาตรการช่วยเหลือนายจ้างที่มีลูกจ้างทำงานเข้าขากัน และเกรงว่าถ้าให้กลับไปบ้านเกิดเพื่อจัดการเอกสาร แล้วอาจจะไม่ได้ร่วมงานกันอีก ทั้งนี้ศูนย์วันสต๊อป เซอร์วิส ไม่สามารถอนุญาตแรงงานให้อยู่ยาวได้ ทำได้แค่ให้อยู่ถึง 31 มี.ค. 2561 เท่านั้น ถือว่ายืดเวลาอยู่ในไทยได้เกือบ 1 ปี ถือเป็นมาตรการบรรเทาปัญหาขาดแรงงานในตลาดได้