svasdssvasds

"บิ๊กตู่" เตือนปชช. ระวังการใช้บัตรเครดิตเเละสินเชื่อส่วนบุคคล

"บิ๊กตู่" เตือนปชช. ระวังการใช้บัตรเครดิตเเละสินเชื่อส่วนบุคคล

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

วันที่ 28 ก.ค.60 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า " ผมมองว่า พี่น้องประชาชนฐานราก ไม่ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่อ่อนแอนาน ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินพะรุงพะรัง และเป็นหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แก้ไขได้ยาก และส่งผลถึงความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชน เพราะต้องนำรายได้มาใช้หนี้ 

ซึ่งภาครัฐก็ได้พยายามเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือแบบครบวงจรมากขึ้น ตั้งแต่การไกล่เกลี่ยหนี้สิน การปรับโครงสร้างหนี้ การให้ความรู้ทางการเงินไม่ให้เกิดการก่อหนี้เพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องของหนี้นอกระบบ 

นอกจากนี้ ยังมีคลินิกแก้หนี้สำหรับประชาชนที่มีหนี้สินกับธนาคารพาณิชย์ด้วย เรื่อง SMEs ก็เช่นกันนะครับ กำลังให้หามาตรการช่วยเหลือ ให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นและทั่วถึง ทั้งจากธนาคารของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ เพราะบางส่วนของวิสาหกิจเรานั้นยังอ่อนแออยู่นะครับ ไม่ขึ้นทะเบียน กลัวการเสียภาษี ไม่ปรับระบบบัญชี ไม่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย หรือเรียนรู้เรื่องการตลาดที่เพียงพอ หรือเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน นะครับ  

"บิ๊กตู่" เตือนปชช. ระวังการใช้บัตรเครดิตเเละสินเชื่อส่วนบุคคล

อีกส่วนหนึ่งของหนี้ครัวเรือน ก็คือหนี้ที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลนะครับ  ช่องทางเพื่อกู้ยืมนี้ มีความสะดวก เกิดการ “ใช้งานง่าย – จ่ายคล่อง” ทำให้ประชาชนใช้เงินไปในสิ่งที่จำเป็น และไม่จำเป็นด้วยซึ่งล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ได้มีมาตรการเพื่อดูแลการเข้าถึงสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ซึ่งจะนำมาใช้สำหรับลูกค้าใหม่ ตั้งแต่เดือนกันยายนนี้  

ต้องเข้าใจนะครับ ถ้าเราปล่อยเสรีมากเกินไป ก็ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ เราต้องแก้ไปด้วยกันนะครับ  ทั้งนี้ ก็เพื่อจะลดโอกาสในการก่อหนี้สินล้นพ้นตัวของพี่น้องประชาชนกลุ่มที่มีฐานะเปราะบาง และจะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนในระยะยาวอีกด้วย  พี่น้องประชาชนสามารถอ่านรายละเอียดของมาตรการเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ ธปท. นะครับ 

"บิ๊กตู่" เตือนปชช. ระวังการใช้บัตรเครดิตเเละสินเชื่อส่วนบุคคล

ในเรื่องการเป็นหนี้นี้ มาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐจะสามารถช่วยบรรเทาได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะต้นตอของปัญหาก็คือตัวเราเอง คือพฤติกรรมการใช้จ่ายของเรา เราก็ต้องปรับตัวเอง ลองพยายามลดความฟุ่มเฟือยลง ใช้ตามความจำเป็น ปรับใช้ตามหลักของเศรษฐกิจพอเพียง พอใจและมีความสุขในสิ่งที่มีอยู่ 

ไม่ใช้คนอื่นเป็นไม้บรรทัด แต่ควรจะใช้ตัวเราเองเป็น “ไม้บรรทัด” ครอบครัว บุตรหลาน ก็ต้องช่วยผู้ปกครองประหยัดด้วยการมองศักยภาพตนเอง ของครอบครัวเราด้วยนะครับ การปรับเปลี่ยนตัวเองได้จะเป็นอย่างแรก ที่ถือว่าดีที่สุดนะครับ" 

related