svasdssvasds

“โออิชิ” เปิดกลยุทธ์ความสำเร็จ ผลประกอบการไตรมาส 2 เติบโต

“โออิชิ” เปิดกลยุทธ์ความสำเร็จ ผลประกอบการไตรมาส 2 เติบโต

โออิชิ กรุ๊ป ผลักดันธุรกิจอาหารและเคร่ืองด่ืมเต็มสูบ ผลประกอบการทั้งยอดขายและกำไรไตรมาส 2 เติบโต (ม.ค – มี.ค. 2562)

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ ตอกย้ำสถานะผู้นำตลาดชาพร้อมดื่มและธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย ทั้งในด้านองค์กร และ ด้านผลประกอบการ โดยล่าสุดสามารถรักษาอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ A+ ต่อเนื่องเป็นปีที่3 จากการมีผลการดำเนินงานที่ดี ประกอบกับการมีตราสินค้าซึ่งเป็นที่รู้จัก ซึ่งจัดอันดับโดยสถาบันจัดอันดับเครดิตแห่งแรกของประเทศไทย ‘ทริสเรทติ้ง จำกัด’ อีกทั้ง ยังได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2561ในระดับ “ดีเลิศ” ซึ่งประเมินโดย ‘สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัท’ นอกจากนั้น ในด้านผลประกอบการ บริษัทฯ สร้างผลงานได้ เป็นที่น่าพอใจทั้งรายได้และผลกำไร โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 (ม.ค. – มี.ค. 2562) เนื่องจากภาพรวมตลาด เครื่องดื่มฟื้นตัว ประกอบกับการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของธุรกิจอาหาร และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ”

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาส 2 นายกฤษฎา วรรธนะภาคิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายการเงินการบัญชี บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2 ของ รอบบัญชี(ม.ค. – มี.ค. 2562) บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 1,684 ล้านบาท เติบโต 11.1% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,798 ล้าน บาท เติบโต 11.9% ขณะที่กำไรสุทธิรวม 397 ล้านบาท ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คิดเป็น 62.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นผลกำไรจากธุรกิจเครื่องดื่ม 275 ล้านบาท เติบโต 48.6% และผลกำไรจากธุรกิจอาหาร 122 ล้านบาท เติบโต 106.8% ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลครึ่งปีแรกตอบแทนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ในอัตราหุ้นละ 1.10 บาท”

ในด้านธุรกิจเครื่องดื่ม นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “โออิชิยังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทย ด้วยส่วน แบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 46.2% (ข้อมูลจาก Nielsen: เดือน มี.ค 2562)จากการประสบความสำเร็จของการ ผสานพลังสามธุรกิจหลัก ทั้ง โออิชิ กรีนที, ร้านอาหารโออิชิ และ ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน (Packaged Food) ในการจัดซัมเมอร์โปรโมชั่นในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา รวมทั้งการกลับมาผลิตสายเครื่องดื่ม UHT ได้เต็มประสิทธิภาพหลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ ในปีนี้เรามุ่งเน้น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ (1) Grow Portfolio เพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีอินโนเวชั่น สร้างสีสันให้ กับตลาด (2) Premiumizationใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ยกระดับสินค้าให้มีความพรีเมี่ยม (3) Healthier Product นำเสนอเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ โดยล่าสุดได้ออก ‘โออิชิ โกลด์เก็นไมฉะ’ ตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพ จนขึ้นแท่นผู้นำ ชาพรีเมี่ยมในช่องทาง MT (Modern trade) และ CVS (Convenience Store)และในร้านอาหารโออิชิทั่วประเทศ

“โออิชิ” เปิดกลยุทธ์ความสำเร็จ ผลประกอบการไตรมาส 2 เติบโต

ในด้านการส่งออก โออิชิ กรีนทียังครองผู้นำในตลาดอาเซียน โดยเป็นอันดับ 1 ในลาวและกัมพูชา เราจึงมุ่งสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผลักดันการเติบโตในตลาด CLMV นอกจากนั้น ในด้าน ภาพลักษณ์ เรายังรักษาภาพลักษณ์แบรนด์ได้อย่างแข็งแกร่งในทุกมิติจากการวัดสุขภาพแบรนด์(Brand Health) เติบโต ในทุกๆ ด้าน ได้แก่ การเป็นแบรนด์ที่เหมาะกับฉัน (Brand For Me) การเป็นแบรนด์ที่เหมาะสำหรับวัยรุ่น (Suitable for Teens) การเป็นแบรนด์ที่เท่&คูล (Cool Brand) และการเป็นแบรนด์ที่ทันสมัย (Modern Brand)”

สำหรับธุรกิจอาหาร กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น (Restaurant) นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ผลงานที่ดีขึ้นในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มาจากการ ขยายสาขาร้านอาหารใหม่ ซึ่งปัจจุบันเรามีสาขาทั้งหมด 258 สาขาทั่วประเทศ ประกอบกับการเติบโตของยอดขายของ สาขาเดิม รวมถึงการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงเมนูอาหาร และการพัฒนาระบบบริการ delivery สำหรับกลยุทธ์หลักในปีนี้ เรามุ่งเน้นไปที่ (1) Store Expansion ขยายสาขาต่อเนื่อง ตั้งเป้าเปิด 15-20 สาขาในปี 2562 นี้ และ 20 สาขาในปี 2563โดยกระจายไปเจาะตลาดในจังหวัดเมืองรอง เพื่อให้เข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้มากยิ่งขึ้น (2) Brand Building & Customer Retention สร้างแบรนด์และรักษาลูกค้า ด้วยการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพสูงขึ้น นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า โดยเฉพาะการขยายรูปแบบและช่องทางการบริการ ทั้งด้านการสั่ง อาหารออนไลน์และบริการส่ง ผ่านช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์ www.oishidelivery.com เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค ดิจิตัล ให้เข้าถึงง่าย และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ผลักดันให้ปริมาณการใช้งานและสั่งซื้อสินค้าเติบโตถึง 17% อีกทั้งเน้นการ บริหารจัดการที่เป็นเลิศ โดยยึดหลักการยึดมั่นในคุณภาพอย่างยั่งยืน”

ด้านกลุ่มอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน (Packaged Food) นางสาวเมขลา เนติโพธ์ิ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกจิอาหารสำเร็จรูป บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ในปี 2562 นี้บริษัทฯ สร้าง แบรนด์อาหารสำเร็จรูปโออิชิให้ แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ (1) Brand Building รีแบรนด์ดิ้งอาหารพร้อมทาน ให้เป็น ‘One Brand’ ภายใต้แบรนด์‘โออิชิ อีทโตะ’ (OISHI EATO) เพื่อสร้างการรับรู้ และความคุ้นเคย เมื่อลูกค้านึกถึงอาหารพร้อมทานสไตล์ญี่ปุ่นต้องนึกถึง OISHI EATO พร้อมสร้าง Brand Connection และ Brand Engagement กับผู้บริโภค (2) New Product เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ทันสมัย โดนใจ ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง (3) Distribution ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ ได้แก่ช่องทาง Food Services และ HORECA รวมทั้งผสานเครือข่ายธุรกิจภายในกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งรักษาช่องทางจำหน่ายทาง MT (Modern trade) และ CVS (Convenience Store)อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น ยังมุ่งเน้นขยายการเติบโตทางช่องทาง ใหม่ๆ เช่น Food Services, HORECA และต่างประเทศ พร้อมเน้นประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด โดยการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และลดปริมาณของเสียให้มากที่สุด “

“โออิชิ” เปิดกลยุทธ์ความสำเร็จ ผลประกอบการไตรมาส 2 เติบโต

จากความมุ่งมั่นพิถีพิถันในทุกขั้นตอนเพื่อคัดสรรคุณภาพและคุณค่าก่อนส่งมอบสินค้าถึงมือผู้บริโภค ทำให้ โออิชิ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า จนครองความเป็นผู้นำด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น การันตีจาก รางวัลในด้านต่างๆ จากหน่วยงานชั้นนำ อาทิ รางวัล Thailand’s Most Admired Brand 2019” จากนิตยสาร แบรนด์เอจ, รางวัล The Most Powerful Brands of Thailand 2018 จากคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น นอกจากการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนแล้ว ยังรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการ สร้างสรรค์โครงการเพื่อสังคม ได้แก่ โครงการ "ให้" และ โครงการ "อิ่มจัง" ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบ การให้ความช่วยเหลือและมอบประสบการณ์พิเศษแก่ผู้ยากไร้” นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กล่าวปิดท้าย

related