เปิดแผนเยียวยาจิตใจ "ทีมหมูป่า" หลังออกจากถ้ำ

ประเมินสภาพจิตใจของทั้ง 13 คน ได้อย่างไรบ้าง?

สำหรับสภาพของน้องที่เห็นจากทีมนักดำน้ำที่ได้เข้าไปพบ เห็นเป็น 2 ส่วน คือส่วนของร่างกาย ได้เห็นสภาพของน้องซูบผอมไปแต่ยังสามารถนั่งหรือเกาะอยู่ในพื้นที่ในถ้ำได้ดีอยู่ และดูสภาพจิตใจที่มีปฎิสัมพันธ์ ยังมีสติที่ดีและมีการพูดคุย ซักถาม ตอบคำถาม ได้อย่างดี มีการพูดคุยกันในกลุ่มแสดงว่าจิตใจยังเข้มแข็งอยู่ และมีความเชื่อมั่นว่าจะมีคนมาช่วยและอยู่กันเป็นกลุ่ม ตรงนี้ก็จะทำให้มีความมั่นใจและความอบอุ่น

ปัญหาที่มีผลกับจิตใจไม่เป็นที่น่ากังวลแล้ว?

โดยธรรมชาติแล้วเมื่ออยู่ในที่คับขันมีความมืดมีอากาศที่ชื้น ตรงนี้ถ้าอยู่คนเดียวจะมีผลมากแต่ถึงแม้จะอยู่เป็นกลุ่มก็ยังคงมีความทรงจำ ตื่นตระหนกตามธรรมชาติ โดยเฉพาะเป็นเด็กยังคงมีสภาพจิตใจอ่อนไหว เมื่ออยู่ในที่คับแคบแล้วยังไม่รู้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือเมื่อไหร่ ตรงนี้ก็ยังมีผลด้านจิตใจอยู่ แต่ที่สำคัญคืออาการต่างๆบรรเทาลงได้เพราะอยู่กันเป็นกลุ่ม และช่วยเหลือดูแลกัน ตรงนี้จะบรรเทาสภาวะหวาดกลัวลงไปได้บ้าง

เด็กอาจจะกลัวน้ำหรือกลัวที่แคบเป็นไปได้ไหม?

ได้ครับ เพราะในปกติธรรมชาติคนเมื่ออยู่ในที่มืดที่แคบแค่นี้ก้มีความกลัวอยู่แล้ว แต่เมื่อมีเรื่องน้ำเข้ามาอีกก็จะมีความกังวลมากยิ่งขึ้น แต่จากที่ดูแล้วแสดงว่าน้องยังมีกำลังใจที่ดีอยู่

ผู้ปกครอง พ่อแม่ ครู จะต้องระมัดระวังหรือให้ความสำคัญกับเด็กเหล่านี้เรื่องอะไรเป็นพิเศษ?

สำหรับเมื่ออกมาแล้ว พ่อ แม่ คงจะแสดงความห่วงใย ดีใจ และที่สำคัญคงจะไม่ไปซักไซร้หรือตำหนิ เพราะจะทำให้น้องๆมีความรู้สึกว่าตัวเองผิด สิ่งที่ครอบครัวควรจะพูดคุยคือ

ต้องแนะนำผู้ปกครองเกี่ยวกับการปฎิบัติตัวหรือไม่?

ครับ ตอนนี้ได้เตรียมผู้ปกครองไว้แล้วสำหรับการพูดคุยหรือสื่อสารกับบุตรเมื่อออกมาแล้ว รวมถึงภาวะจิตใจ อารมณ์ ที่จะเกิดขึ้น และสิ่งที่ควรจะปฎิบัติหรือไม่ควร เราได้เตรียมพร้อม

ให้ผู้ปกครองแล้วครับ

เมื่อเด็กออกมาอาจถูกนำไปออกรายการโทรทัศน์แล้วเมื่อเจอคำถามซ้ำๆจะมีผลกับเด็กหรือไม่?

เมื่อเด็กออกมาแล้วผมคิดว่าในช่วงแรกไม่ควรพูดคุย หรือให้ข้อมูลแก่สังคม ควรฟื้นให้สภาพร่างกายดีก่อน ในขณะเดียวกันจะต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจให้เรียบร้อยก่อนถึงจะออกมาพูดคุยกับสังคมได้ และไม่ควรพูดคุย หรือตอกย้ำว่าทำไม คำถามทำไมว่าทำไมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะอาจทำให้เกิดความตอกย้ำให้เด็กรู้สึกว่าทำไม่ถูก สิ่งที่ควรพูดคุยคือการที่เขาอยู่ในถ้ำช่วยเหลือดูแลกันอย่างไร จะเป็นประโยชน์มากกว่า

หากเจอการวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชี่ยลจะมีผลหรือไม่?

จะต้องเจอแน่นอนครับ อย่างแรกอยากให้สื่อทางสังคมให้กำลังใจแก่เด็กและชี้แนะและที่สำคัญอย่าทำให้เขารู้สึกว่าเป็นผู้ร้ายหรือคนทำผิด ในขณะเดียวกันตัวเด็กเองเมื่ออ่านพบคำพูดทางตำหนิหรือต่อว่าควรคิดว่าเขาเป้นห่วงเป็นใยไม่ได้มุ่งร้าย ให้เด็กรู้ว่าจะต้องเตรียมใจรับไว้แต่ให้คิดในแง่ดี

ไม่ควรเชิดชูทั้ง 13 คน เป็นฮีโร่ใช่ไหม?

ครับ เราอยากให้น้องๆเห็นว่าตัวเองเป็นผู้ประสพภัย แล้วได้รับการช่วยเหลือ ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษเพราะตรงนี้เป็นภัยที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อนน่าจะถือว่าตัวเองเป็นผู้ประสพภัยแล้วได้รับการช่วยเหลือ น่าจะถูกต้องมากกว่า