ภาคประชาชนชี้ 4 ปี คสช. ทำการเมืองล้าหลัง

เวทีเสวนา 4 ปีรัฐประหาร กับการปฏิรูปประเทศไทย 

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย หรือ ครป. จัดเวทีเสวนา หัวข้อ 4 ปี รัฐประหารกับการปฏิรูปประเทศไทย โดยนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. กล่าวในงานเสวนา “4 ปีรัฐประหาร กับการปฏิรูปประเทศไทย” ว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา การปฏิรูปมีทั้งความก้าวหน้า และติดขัดหลายเรื่อง และเมื่อดูจากปัญหาที่ผ่านมาแล้ว จะหวังให้การปฏิรูปเกิดภายใน 4 ปีไม่ได้ เพราะจะต้องแยกการเมือง ออกจากการปฏิรูป ที่ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลจะต้องดำเนินการปฏิรูปประเทศ

นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงการปฏิรูปการเลือกตั้งทุกระดับว่า ในระยะหลังเกิดการทุจริตเกิดขึ้นมาก โดยเฉพาะการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่เป็นพื้นฐานประชาธิปไตย กลับติดเชื้อร้ายจากการเลือกตั้งระดับชาติ ที่ต้องลงทุน และถอนทุน ถ้าแก้ปัญหาการเลือกตั้งไม่ได้ อย่าหวังว่าจะมีคนที่มีความสามารถเข้ามาบริหารประเทศ ส่วนรูปแบบรัฐบาลในอนาคต จะต้องต้องเป็นลักษณะจิ๋วแต่แจ๋ว ลดขนาดราชการส่วนกลาง และกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น พร้อมมองว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึง จะเป็นบทพิสูจน์ว่าการปฏิรูปการเมืองที่ผ่านมาสำเร็จหรือไม่

นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม นิด้า และประธานกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย หรือ ครป.กล่าวว่า โอกาสความสำเร็จในการปฏิรูปมีเพียงร้อยละ 20 และเห็นว่า กรณีการครอบครองนาฬิกาหรู ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบ และคนของรัฐบาลและ คสช. กลับใช้ชีวิตหรูหรา ซึ่งเป็นรากเหง้าของการคอร์รัปชัน