ศอ.บต. จับมือ พาณิชย์ ผลักดันผลไม้ชายแดนใต้ สู่ตลาดโลก

ศอ.บต. ผลักดันผลไม้ชายแดนใต้ สู่ตลาดโลก

ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ร่วมกับกระทรวงพานิช และหน่วยงานร่วมประชารัฐ วางแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร ขับเคลื่อนกระบวนการนำผลไม้จาก 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ สู่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย ทุเรียน มังคุด ลองกอง และเงาะ โดยปีนี้จะเริ่มทยอยส่งออกสู่ตลาดในช่วงปลายเดือน กรกฎาคม ถึง พฤศจิกายน

นาย ศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพ ปลูกพืชผัก ผลไม้ และยางพารา ซึ่งมีการให้เกษตรกรทำเกษตรเชิงคู่ และรณรงค์ให้นึกถึงคุณภาพผลผลิตเป็นหลัก

สำหรับผลผลิตที่ได้มี ทุเรียน มีรสชาติหวานมัน เนื้อละเอียด หลากหลายสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี ก้านยาว กระดุม พวงมณี และสายพันธ์พื้นบ้าน อย่าง มูสังคิง ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเป็นอย่างมาก ส่วนลองกอง มีเนื้อขาวขุ่น รสชาติหวานอมเปรี้ยวผสมผสานอย่างลงตัว มังคุด เนื้อในฉ่ำน้ำ ผลไม้ยอดนิยมสำหรับคนลดน้ำหนัก เงาะโดดเด่น มีพันธุ์โรงเรียน พันธุ์สีทอง พันธุ์สีชมพู เนื้อกรอบ หวานอร่อย

นางจินตนา ชัยยวรรณการ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมถึงหน่วยงานประชารัฐในพื้นที่ เตรียมจัดหาตลาดปลายทางเชื่อมโยงกับภูมิภาคอื่นเพื่อกระจายผลผลิตให้กับเกษตรกรรายย่อย เน้นออกแบบบรรจุภัณฑ์ ที่ได้มาตรฐาน

สำหรับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ) มีพื้นที่ปลูกไม้ผลพืชเศรษฐกิจในปี 2561 รวม 4 ชนิดคือ ทุเรียน 94,392 ไร่ ได้ผลผลิต 52,573 ตัน ซึ่งจะมีผลผลิตมากที่สุดในเดือน สิงหาคม ลองกอง 101,706 ไร่ ผลผลิต 28,235 ตัน โดยให้ผลผลิตมากที่สุดเดือน ตุลาคม ส่วนมังคุด 30,920 ไร่ ผลผลิต 16,597 ตัน เงาะ 28,896 ไร่ ผลผลิต 16,278 ตัน จะให้ผลผลิตมากที่สุดในเดือนสิงหาคมของทุกปี