ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Toey Atchima Surakiat หนึ่งในผู้ประสบเหตุดินถล่มที่ภูเขาไฟรินจานี ประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากแผ่นดินไหว ได้โพสต์เล่าประสบการณ์หนีดินถล่ม โดยระบุว่า หนีตายที่รินจานี ตามแพลนเดิมพวกเราจะเดินขึ้นยอดวันที่ 28 ตอนตีสองครึ่ง แล้วเดินกลับลงมาที่เต้นท์ หลังจากกลับลงมาแล้วจะเก็บของแล้วลงไปที่ทะเลสาบตอนบ่าย แต่กว่าพวกเราจะลงมาครบที่เต้นท์ตอนนั้นก็บ่ายโมงแล้ว แล้วแต่ละคนก็อาการไม่สู้ดีเท่าไหร่เพราะเดินกัน10ชั่วโมงแล้วอ่ะเนอะ เดินลงต่อไม่ไหวแน่ๆ ถ้าจะลงต่อต้องใช้เวลาอีก 4 ชั่วโมง เลยบอกไกด์ว่าขอลงไปที่ทะเลสาบพรุ่งนี้แต่เช้าแล้วกัน วันนี้ขอนอนพักที่เดิม พรุ่งนี้พวกเราจะตื่นตีสี่ เริ่มออกเดินตีห้าจะได้ลงไปถึงที่ทะเลสาบเร็วหน่อย ไกด์ก็โอเค
เช้าวันที่ 29 พวกเราตื่นตีสี่ตามเวลาที่บอก แต่วันนี้ไกด์และลูกหาบทำอาหารมาให้พวกเราช้า เค้าเอามาให้เราตอนตีห้ากว่าๆ กว่าพวกเราจะกินเสร็จ และรอพวกลูกหาบเก็บเต้นท์พร้อมเดินลงก็ประมาณ 6.30 น. แล้ว
6.39 น. โดยประมาณพวกเราก็เริ่มออกเดิน ทางเดินลงจะเป็นดินผสมหินเป็นส่วนใหญ่ พวกเราเดินลงกันไปได้สักสิบนาทีเอง เราก็ได้ยินเสียง ตึงๆๆๆ ภูเขาสั่นๆ มีเสียงคล้ายระเบิด ตัวเริ่มสั่น รู้สึกได้ว่ามันแกว่งๆ เลยหันหลังกลับไปดูก็เห็นว่ามีเศษดินทรายร่วงลงไปที่ทะเลสาบจำนวนมาก ระยะที่ทรายร่วงลงไปตรงนั้นห่างจากเราไปสัก 150 เมตรเอง ใกล้พอสมควร ฝุ่นฟุ้งคลุ้งไปทั่วบริเวณ ไกด์ก็บอก sit down sit down ให้หมอบให้นั่งลงไป เราคิดในใจ นี่แผ่นดินไหวใช่มั้ยวะเนี่ย โอ้ยยย เอาแล้วหรอ จะไหวมั้ย พอมันหยุดได้แป๊บนึงไกด์ก็บอกให้พวกเราวิ่งกลับไปข้างบนที่เดิม เราลงไปที่ทะเลสาบไม่ได้แล้ว พวกเราก็หันหลังกลับทันทีแล้วรีบวิ่งขึ้นทางเดิม ระหว่างที่วิ่งก็สั่นอีกรอบต้องหมอบลงไปอีก พอหยุดก็รีบวิ่งกันเลยทุกคน ตรงไหนปีนได้คือต้องปีนเพราะไม่รู้ว่าตรงที่เรายืนอยู่จะถล่มตามลงไปมั้ย
พอปีนขึ้นมาถึงตรงที่พักเดิมก็เจอกลุ่มคนจำนวนมากมานั่งรวมกลุ่มกัน ลูกหาบหลายคนเริ่มสวดมนต์กันแล้วอ่ะ ชาวพุทธแบบเรานี่ใจคอไม่ดีเลย ไกด์กับพวกเราก็รอดูสถานการณ์กันสักพัก แล้วแผ่นดินก็ไหวอีกรอบ พอหยุดรอบที่สาม ไกด์บอกพวกเราว่าจะพาลงอีกทางนะ มันเป็นคนละฝั่งกับทะเลสาบ แต่ทุกคนต้องวิ่งให้ไวกว่านี้ เราจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการวิ่งลงไปจนถึงจุดที่ปลอดภัย ทุกคนก็โอเค ผลัดกันนำ ผลัดกันตาม ไกด์จะให้พวกเราพักเป็นระยะๆ ระหว่างทางวิ่งลงมาก็เจอกับคนอีกหลายกลุ่มที่วิ่งหนีมาทางนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย เจอคนไทย2คน เค้าบอกว่าเค้าตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น มาถ่ายรูป เพื่อนอีกสองคนยังนอนอยู่ในเต้นท์ พอแผ่นดินไหวแล้วได้ยินไกด์เราบอกว่าให้วิ่ง เค้าก็ตัดสินใจวิ่งตามเรามา โดยที่ทั้งสองคนมีโทรศัพท์มาแค่เครื่องเดียว พาสปอร์ตและทุกสิ่งคือไม่ได้เอาลงมา เราก็แบ่งน้ำแบ่งขนมให้เค้ากินนะ คนไทยใจดีเสมอแหล่ะ ความจริงคือต้องการลดน้ำหนักกระเป๋านั่นเอง 55555555
ระหว่างทางที่วิ่งลงมาคือรองเท้าเราเป็นรองเท้าสำหรับเดินป่าโดยเฉพาะ เราเลยลงได้ไว #กราบรองเท้ามาณที่นี้ ไม่ต้องใช้ trekking pole ช่วย หันกลับไปเห็นพี่ปอมงกๆเงิ่นๆกะทางลง เพราะนางใส่ nike air max frgmt จ้าาา ไม่ไหวละ เพราะเราวิ่งเร็วกว่าถ้าเราไม่รอเราจะยิ่งทิ้งห่างพี่ปอมไปเรื่อยๆ เลยบอกพี่ปอมว่า เอาไม้โพลมานี่ เดี๋ยวถือเอง จับมือหนูนะ แล้ววิ่งไปพร้อมกันนะ 555555 โอ้ยยย ซึ้งเหลือเกิน ณ ตอนนั้นคือ เราจะมาตายพร้อมกันที่นี่ไม่ได้ แต่ถ้าจะเป็นอะไรจะเจออะไรก็ต้องไปด้วยกัน
เราวิ่งลงมา2คนกับพี่ปอมแล้วก็ไกด์อีกคน ส่วนเพื่อนอีกสี่คนตามมาข้างหลังโดยมีไกด์อีกคนดูแลอยู่ ระหว่างทางที่ลงมาล้มด้วยจ้าาา 55555 ดีว่าแค่เข่าถลอก เท้าไม่พลิก ได้ของฝากจากรินจานีกลับไปด้วย แสบแผลชิบ ระหว่างลงก็จะเจอกับตะกร้าใส่ของกินของลูกหาบกรุ๊ปอื่นๆที่เค้าทิ้งแล้ว ไม่เอาแล้ว ไกด์เราก็ไปค้นๆดูเจอน้ำส้มมินิเมด3-4ขวด เค้าก็เลยหยิบมาแล้วให้เราพกไว้ บอกว่าต้องกินน้ำตาล น้ำตาลจำเป็น ไกด์แม่งสุดยอดจริงๆ รับผิดชอบลูกทีมแบบว่าดีมากกกกกก แล้วเค้าก็บอกเราว่าเนี่ยบ้านเค้าพังไป2หลัง แต่ลูกเค้าปลอดภัย โอ้ยยย สงสารสุดๆ
พอเราลงมาถึง pos 3 ห่างจากจุดเริ่มต้นมาไกลมากแล้วได้นั่งพักแป๊บนึงก็ต้องวิ่งต่อ ถามไกด์ว่าจากตรงนี้ไปถึง pos 2 ใช้เวลาแค่ไหน เค้าบอกว่า วิ่งสปีดแบบนี้ 1 ชั่วโมง เราแบบ ห๊ะะะะ ในใจคือกะไว้ว่า 20นาที 5555555 มั่นใจในสปีดตัวเองสุดๆ ตอนนั้นทำไรไม่ได้นอกจากวิ่ง ก็ผลัดกันลากกะพี่ปอม บางช่วงที่เป็นทางขึ้นพี่ปอมก็ช่วยดัน ช่วยจูงกันมา สรุปลงมาถึง pos 2 ใช้เวลา 50 นาที ตอนนั้นรู้สึกแล้วล่ะว่าปลอดภัยแล้ว แต่อาฟเตอร์ช็อคก็ยังมีมาเป็นระยะๆ เราวิ่งหนีจนลงมาถึงจุดเริ่มต้นตอนเกือบเที่ยงพอดี ใช้เวลาไปทั้งหมด เกือบๆ5ชั่วโมง นั่งรอรถของที่พักมารับ แล้วให้มาส่งที่ รร ที่ใกล้ๆสนามบิน เจ้าของทัวร์บอกว่าให้มานอนแถวนี้เถอะ ตรงนั้นไม่ปลอดภัย ระหว่างทางที่เรานั่งรถมาที่ รร เห็นรถตำรวจ รถทหาร รถพยาบาล วิ่งสวนไปเยอะมาก ก็ได้แต่หวังว่าทุกคนที่ยังติดอยู่บริเวณนั้นปลอดภัยทุกคน
จากเหตุการณ์นี้