กสม.ชี้มวยเด็กละเมิดสิทธิ - ขัดหลักกฎหมาย

นางฉัตรสุดา จันทร์ดียิ่ง กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีนักมวยเด็ก "เพชรมงคล ป.พีณภัทร" หรือด.ช.อนุชา ทาสะโก วัย 13 ปี เสียชีวิตจากอาการเลือดคั่งในสมองจากการขึ้นชกมวยที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นปัญหาของการชกมวยในวัยเด็กที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ โดยเฉพาะการบาดเจ็บทางสมองที่ก่ออันตรายถึงแก่ชีวิต

 เป็นปัญหาที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในแวดวงกีฬามวยต้องให้ความสำคัญและไม่นิ่งนอนใจ เนื่องจากกีฬามวยเด็กถือว่าขัดต่อหลักการของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ที่ระบุว่าเด็กเป็นกลุ่มเปราะบางของสังคม จะต้องได้รับการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานให้มีชีวิตรอด และต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองจากการถูกทำร้าย การล่วงละเมิด และการแสวงหาประโยชน์ในทุกรูปแบบ

  ด้านพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะต้องมีผู้ใดรับผิดชอบ กรณีนักมวยเด็กเสียชีวิตจากการแข่งขันชกมวยครั้งนี้ แต่จากการตรวจสอบพบว่าผู้จัดขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง โดยคำขอระบุว่าจัดการแข่งขันมวยเด็กอายุระหว่าง 10-25 ปี หารายได้เพื่อการกุศล แต่เมื่อมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นตำรวจจำเป็นต้องสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรอผลชันสูตรพลิกศพสาเหตุการเสียชีวิต และต้องการทราบข้อเท็จจริงว่า มีการประมาทเกิดขึ้น หรือปล่อยปละละเลยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันหรือไม่

 ขณะที่พลโทคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมแสดงความกังวลถึงการพัฒนาการกีฬาทุกประเภทที่ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักกีฬามากขึ้นกว่าที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ พลเอกประวิตร ยังได้ขอให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พิจารณาความเหมาะสม ของ พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ที่ สนช.ได้เสนอร่างแก้ไข ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของนักกีฬา และการพัฒนากีฬามวยในกลุ่มเด็กและเยาวชน