svasdssvasds

ฝีมือมนุษย์! “วาฬสเปิร์ม” อินโดฯตาย พบขยะเต็มท้อง 6 กก.

ฝีมือมนุษย์! “วาฬสเปิร์ม” อินโดฯตาย พบขยะเต็มท้อง 6 กก.

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องวาฬสเปิร์มตายที่อินโดนีเซีย ซึ่งกำลังเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่าในท้องวาฬสเปิร์ม มีขยะพลาสติกมากถึง 6 กิโลกรัม เหตุการณ์นี้ถูกนำมาเชื่อมโยงกับวาฬนำร่องที่ตายในเมืองไทย

ดร.ธรณ์ จึงได้สรุปว่า หากนับเฉพาะข่าวดังเรื่องวาฬกับขยะพลาสติก วาฬตัวนี้ถือเป็นอันดับสามในรอบปี เริ่มจากวาฬที่สเปนตอนต้นปี วาฬนำร่องของไทยตอนกลางปี และวาฬที่อินโดนีเซีย วาฬตายใกล้เกาะ Sulawasi อินโดนีเซีย ซึ่งก็อยู่ในทะเลในเขตเชื่อมต่อกับทะเลไทย ที่วาฬนำร่องตายแถวสงขลา บริเวณนี้ถือเป็นเขตที่มีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตทางทะเลสูงที่สุดในโลก ยังเป็นเขตอยู่อาศัยของสัตว์ทะเลหายากจำนวนมาก แต่บริเวณนี้เป็นเขตที่ได้รับผลกระทบจากขยะทะเลสูงมาก เพราะ 4 ใน 10 ประเทศของอาเซียน ปล่อยขยะพลาสติกลงทะเลติดอันดับ 1-10 ของโลก อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟีลิปปินส์ และไทย คือประเทศเหล่านั้น ยังหมายถึงแม่น้ำโขงถูกระบุว่าเป็นแม่น้ำปล่อยขยะลงทะเลมากที่สุด 1 ใน 10 แม่น้ำของโลก ขยะที่พบในท้องน้องวาฬมีหลากหลาย ทั้งถุงพลาสติก รองเท้าแตะ แก้วและขวดพลาสติก เศษอวน ฯลฯ

ฝีมือมนุษย์! “วาฬสเปิร์ม” อินโดฯตาย พบขยะเต็มท้อง 6 กก. ฝีมือมนุษย์! “วาฬสเปิร์ม” อินโดฯตาย พบขยะเต็มท้อง 6 กก.

นักวิทยาศาสตร์พบว่า วาฬตัวนี้ผอมกว่าปรกติมาก จึงคาดว่าสาเหตุการตายอาจเกิดจากปัญหาที่ระบบทางเดินอาหาร เพราะไม่สามารถย่อยขยะพลาสติกในท้องได้ ปัจจุบัน น่าจะมีขยะพลาสติกอยู่ในทะเลมากกว่า 150 ล้านตัน

ในแต่ละปี มนุษย์ปล่อยขยะลงทะเลมากกว่า 8 ล้านตัน และตัวเลขอาจเพิ่ม 3 เท่าใน 10 ปีต่อจากนี้ (world economic forum) การตายของน้องวาฬสเปิร์มที่อินโดนีเซีย ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของมนุษย์ไม่ว่าประเทศไหน แต่แน่นอนว่าสายตาคนทั้งโลกย่อมมองมาที่ประเทศในเขตอาเซียน จึงเชื่อได้ว่า รัฐบาลอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอีกหลายชาติ จะเร่งเครื่องมาตรการจัดการพลาสติกใช้แล้วทิ้ง และขยะทะเล ในเมืองไทยมีการดำเนินงานที่รุดหน้าไปหลายเรื่อง เช่น การห้ามนำพลาสติกบางประเภทเข้าไปในเขตอุทยาน การยกเลิกพลาสติกหุ้มฝาขวด การประกาศห้ามนำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศของคณะกรรมการปฏิรูป ฯลฯ

กรมทรัพยากรทางทะเลฯ ได้ศึกษาจนสามารถระบุแม่น้ำสายสำคัญที่ปล่อยขยะลงสู่ท้องทะเล โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาปล่อยขยะลงมากที่สุด คิดแล้วมากกว่า 50% (จากแม่น้ำที่ศึกษา 5 สาย) กรมทะเลกำลังเตรียมติดตั้งข่ายดักขยะ 10 แห่ง ตามแม่น้ำสำคัญ เพื่อลดขยะลงสู่ทะเล ภาคเอกชนมีบทบาทอย่างยิ่งในการจัดการปัญหาขยะพลาสติก เราเริ่มเห็นการดำเนินงานมาโดยตลอด เช่น การประกาศของห้างร้านต่างๆ ที่จะไม่แจกถุง ลดการใช้ถุง ฯลฯ ยังรวมถึงการผลักดัน Circular Economy ของ GC และ SCG ที่จะช่วยรีไซเคิลพลาสติกได้เป็นจำนวนมาก แม้แต่ไอคอนสยามก็มีศูนย์นวัตกรรมรีไซเคิลขยะพลาสติกของอาจารย์สิงห์ วันศุกร์มีงานเกี่ยวกับการลดขยะ 2 แห่งรวด เขาเชิญผมไปทั้งสองแห่ง ตอนเช้าและตอนบ่าย ผมจะนำมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง

แต่ตอนนี้ มองแก้วพลาสติกที่เรากำลังจะถือ...

หลอดพลาสติกที่เรากำลังจะดูด...

ถุงพลาสติกที่เรากำลังจะหิ้ว...

จากนั้นมองภาพน้องวาฬสเปิร์มที่เพิ่งตายไป...

ทุกคนช่วยวาฬ ช่วยเต่า ช่วยโลมา ช่วยปะการัง ช่วยสรรพสัตว์ทั้งท้องทะเลได้

นับตั้งแต่วินาทีนี้ครับ

หมายเหตุ ขอบคุณภาพจากกลุ่มรักษ์วาฬ Whale Standing Indonesia ครับ

 

related