svasdssvasds

สะเทือนใจ! คนงานก่อสร้างยืนนับแบงก์ย่อย ซื้อหน้ากากกันฝุ่นพิษให้ลูก

สะเทือนใจ! คนงานก่อสร้างยืนนับแบงก์ย่อย ซื้อหน้ากากกันฝุ่นพิษให้ลูก

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

ทพ.ดร.ธงชัย วชิรโรจน์ไพศาล เลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายพัฒนาศักยภาพผู้นำการสร้างสุขภาวะ (คศน.) โพสต์เล่าเรื่องราวสุดสะเทือนใจผ่านเฟซบุ๊ก Thongchai Vachirarojpisan ถึงกรณีที่คนงานก่อสร้าง ควักเงินค่าแรงเพื่อซื้อหน้ากากกันฝุ่นในราคาสูง เพื่อให้ลูกสาวและตนเองใส่ป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 โดยระบุว่า

"ป้าทำงานอะไร?" เภสัชกรร้านขายยาในตลาดเวิร์ดมาร์เก็ต ทวีวัฒนา ถามหญิงวัยกลางคนใส่เสื้อลายสก๊อตนุ่งกางเกงขาสั้นสีมอมๆที่มากับลูกสาวในชุดนักเรียนมัธยมสองคนแม่ลูกกำลังเลือกซื้อหน้ากากกันฝุ่น ผมยืนอยู่ข้างหลังเพื่อรอคิวจ่ายเงินซื้อหน้ากากกันฝุ่นเช่นกัน จึงได้ยินการสนทนาชัดเจน

สะเทือนใจ! คนงานก่อสร้างยืนนับแบงก์ย่อย ซื้อหน้ากากกันฝุ่นพิษให้ลูก

"ทำงานก่อสร้าง" หญิงกลางคนตอบ และถามกลับว่า "หน้ากากนี้มันกันฝุ่นได้ไหม"เภสัชกรตอบว่า "แบบนี้กันไม่ได้ 100% ราคา 95 บาทได้ 2 ชิ้น ถ้าจะเอาแบบกันได้ 100% ต้องซื้ออีกแบบ (ชี้ไปที่แบบทรงกระโหลกที่พับไม่ได้) ราคาชิ้นละ 85 บาท ก็จะกันฝุ่นได้ดีกว่า" สองคนแม่ลูกลังเล ปรึกษากันอยู่พักใหญ่ กว่าจะตัดสินใจเลือกซื้อแบบราคาถูกกว่า ซื้อไป 3 คู่ เป็นเงิน 285 บาท

ผมยืนดูตอนที่หญิงกลางคนนับเงินย่อยในกระเป๋าตังค์เพื่อจ่ายค่าหน้ากากกันฝุ่น อย่างสะเทือนใจ เภสัชกรบอกป้าด้วยความเห็นใจว่า "ป้าไม่ต้องเปลี่ยนทุกวันนะ ใช้สัก 3 วันค่อยเปลี่ยนก็ได้" ผมคิดในใจว่า ถ้าป้าได้ค่าแรงวันละ 300-400 บาท การซื้อหน้ากากกันฝุ่นราคาขนาดนี้ก็เป็นภาระทางการเงินที่หนักหนาสาหัสทีเดียว ฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อทุกคนที่ใช้อากาศเดียวกันหายใจ แต่กระทบอย่างมากกับคนที่มีรายได้น้อย เราพึ่งรัฐไม่ได้ คนมีเงินพึ่งตนเองได้ แล้วคนที่มีรายได้น้อยจะทำอย่างไร

สะเทือนใจ! คนงานก่อสร้างยืนนับแบงก์ย่อย ซื้อหน้ากากกันฝุ่นพิษให้ลูก

related