คิม ไทยแลนด์ ถูกตำรวจและฝ่ายรักษาความปลอดภัยของทางการเวียดนามล็อกตัว หลังไปเดินรอบสถานที่จัดประชุมฮานอย ซัมมิต นะหว่าง โดนัล ทรัมป์ กับ คิม จอง อึน
ที่เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม นายอุเทน เหลืองแสงทอง อายุ 41 ปี นักธุรกิจป้ายโฆษณา ผู้ประสบความสำเร็จมีทรัพย์สินร้อยล้านด้วยวัยแค่ 40 ปี ซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวกรุงฮานอย ระหว่างวันที่ 25-27 ก.พ. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับผู้นำ 2 ประเทศ นายทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กับ นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ มาประชุมซัมมิต เจราจาเรื่องลออาวุธนิวเคลียร์
นายอุเทน หรือ คิม ไทยแลนด์ ได้ใช้เวลาตอนเช้าของวันที่สามออกไปเดินชมบรรยากาศทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดและสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงใจกลางกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจิตใจจะได้สงบ ก่อนกลับโรงแรมที่พัก นายอุเทน ได้เดินผ่านไปยังบริเวณที่มีการจัดรายงานผลการประชุมที่อยู่ใกล้ทะเลสาบ เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เพื่อบันทึกไว้ว่าได้มาท่องเที่ยวเวียดนามในช่วงเวลาที่ผู้นำสองประเทศเดินทางมาเจรจากัน
แต่ปรากฎว่ามีประชาชนเวียดนามที่มาออกกำลังกายและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพบเห็นพากันมาขอถ่ายรูปเหมือน 2 วันแรกมาเดินทางมาถึงเวียดนามจะต้องมาขอถ่ายรูปกับเขา ทำให้คิม ไทยแลนด์ ตกเป็นเป้าสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ฝ่ายรักษาความปลอดภัยการประชุมซัมมิต จนถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาขอตรวจสอบ ทั้งที่นายอุเทน หรือคิม ไทยแลนด์ ได้กระโดดขึ้นรถแท็กซี่เพื่อกลับโรมแรมที่พัก แต่เจ้าหน้าที่ได้หยุดรถและขอดูพลาสปอร์ตก่อนจะเชิญตัวลงจากถแท็กซี่ พาเดินเท้าไปยังกองบัญชาการตำรวจฮานอย ทำให้สื่อมวลชน และช่างภาพสำนักข่าวต่างๆจำนวนมาก เห็นเหตุการณ์และเข้ามาเพื่อพยายามถ่ายรูปนายอุเทน โดยตำรวจเวียดนามที่คุมตัวมาปิดกั้นไม่ให้บันทึกภาพ
นายอุเทน ถูกถามเกี่ยวกับข้อมูลและวัตถุประสงค์ของการมาใกล้บริเวณสถานที่จัดประชุม นานร่วม 2 ช.ม. จนเห็นว่าไม่น่าจะมีวัตถุประสงค์ก่อเหตุร้าย ตำรวจเวียดนาม จึงทำการบันทึกปากคำเป็นภาษาเวียดนาม ก่อนจะแปลให้ฟังเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเจ้าตัวเห็นว่าไม่มีอะไรเสียหายจึงยอมลงนามเซ็นชื่อในบันทึกดังกล่าว ก่อนที่นายอุเทน จะถูกส่งตัวไปยังสถานีตำรวจที่ตั้งของโรงแรมอัลลัว โฮเต็ล ที่นายอุเทนพักอยู่ เพื่อเก็บกระเป๋าเดินทางและเขิญตัวเขาให้เดินทางกลับประเทศไทยตามกำหนดเวลาที่จองตั๋วเครื่องบินสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ เที่ยวบิน VN 613 ในเวลา 15.30 น. 27 ก.พ.62 เวลาถึง กทม.ประมาณ 17.35 น. วันเดียวกัน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนามได้เชิญตัวนายอุเทน และ นักท่องเที่ยวชาวอียิปต์ อีกรายหนึ่งขึ้นรถไปส่งมอบต่อ ตม.เวียดนาม และควบคุมตัวไว้จนกว่าจะถึงเวลาขึ้นเครื่องถึงจะคืนหนังสือเดินทางให้นายอุเทน