svasdssvasds

เปิดใจ “หมอมน” ทำคลอดคนครั้งแรก ชี้เด็กมีโอกาสเกิดมาควรมีชีวิตต่อ

เปิดใจ “หมอมน” ทำคลอดคนครั้งแรก ชี้เด็กมีโอกาสเกิดมาควรมีชีวิตต่อ

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

จากกรณี​ ส​พ.ญ.วารีย์​ ลิ้มรุ่งสุโข หรือ หมอมน​ อายุ​ 34​ ปี​ สัตวแพทย์​ประจำคลินิกสัตวแพทย์​ ทำการช่วยเหลือฉุกเฉินทำคลอดหญิงคนงานก่อสร้าง​ชาวต่างด้าว​ ที่คลอดลูกก่อนกำหนด​ จนสามารถช่วยชีวิตเด็กน้อยไว้ได้​ และมีผู้นำคลิปเหตุการณ์ไปเผยแพร่ทางโลกโซเชียล​ จนสร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็นจำนวนมาก

โซเชียลลุ้นเอาใจช่วย! สัตวแพทย์สาวปั๊มหัวใจเด็กทารก [คลิป]

ล่าสุด หมอมน ได้เปิดใจถึงนาทีที่ช่วยเหลือเด็กน้อยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา​ 19.00​ น.​ ของวันที่​ 19​ พ.ค.​ ขณะที่ตนกำลังรักษาสัตว์ให้กับลูกค้าในคลินิก ได้มีคนวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือ จึงรีบวิ่งออกมาจากคลินิกทันที เมื่อไปถึงพบว่าเด็กตัวม่วง ไม่ส่งเสียงร้อง ไม่หายใจและหัวใจหยุดเต้น ตนตึงใช้นิ้วกดหน้าอกอย่างระวังเพื่อเป็นการปั้มหัวใจ ก่อนจะรีบพาเด็กไปที่คลินิก​​ ใช้สลิงดูดน้ำคร่ำและปั้มหัวใจอย่างต่อเนื่อง ขณะนั้นรู้สึกว่าเด็กหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง จึงตัดสินใจทำซ้ำต่อไปเรื่อยๆ จนเด็กหายใจเองได้และร้องออกมา​ ท่ามกลางเสียโห่ร้องดีใจของผู้คนในคลินิกที่ช่วยกันลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ

เปิดใจ “หมอมน” ทำคลอดคนครั้งแรก ชี้เด็กมีโอกาสเกิดมาควรมีชีวิตต่อ

หมอมน เผยว่า ขณะที่ช่วยไม่ได้คิดถึงเหตุผลอะไรทั้งนั้น คิดแค่ว่าเด็กมีโอกาสเกิดมาแล้วก็ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไป จึงช่วยเหลือเต็มที่ เพราะถ้าไม่ช่วยตนอาจจะเสียใจภายหลัง โดยใช้ความรู้จากการทำคลอด​ น้องหมา​ น้องแมว อย่างที่เคยทำประจำ​ เนื่องจากการคลอดของสัตว์เมื่อออกมาในช่วงแรกก็จะตัวสีม่วงเช่นกัน​ จึงใช้วิธีการทำ ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพมารับไปรักษาต่อที่ รพ.ศิริราช​

หมอมน บอกต่อว่า ตอนนี้ทราบว่าทั้งแม่และรู้ปลอดภัยก็รู้สึกดีใจ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนถ่ายคลิปไปเผยแพร่ พร้อมขอขอบคุณทุกคนชื่นชม ซึ่งจะเป็นกำลังใจให้ตนทำหน้าที่หมอที่ดีที่ไป หลังเรียนจบสัตวแพทย์​ ก็เป็นหมอรักษาสัตว์มา​ 10​ ปี​ ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้​ เป็นครั้งแรกที่ช่วยเหลือคน​ และอยากฝากว่า​ หากรู้สึกปวดท้องไม่ควรรอ​ และควรรีบไปหาหมอให้เร็วที่สุด​ หรือควรมีเบอร์สายด่วนฉุกเฉินติดไว้เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

เปิดใจ “หมอมน” ทำคลอดคนครั้งแรก ชี้เด็กมีโอกาสเกิดมาควรมีชีวิตต่อ

ด้าน น.ส.สุมลทา พิลึก คนงานก่อสร้างที่อยู่ในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ มีเพื่อนคนงานวิ่งมาตามตนให้ไปช่วยแม่เด็ก เพราะเห็นว่าปวดท้อง ทั้งที่ท้องได้เพียง 7 เดือนเท่านั้น​ จึงรีบวิ่งขึ้นไปดู และถามว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง แม่เด็กบอกว่าปวดท้องมาก พบว่ามีเลือดไหลออกมาจากบริเวณช่องคลอด จึงได้ประคองแม่เด็กให้มารอหน้าบ้าน ก่อนจะรีบวิ่งไปเรียกรถแท็กซี่ แต่รถแท็กซี่ไม่รับ เพราะเห็นว่าคลอดก่อนกำหนด กลัวว่าเด็กจะเป็นอันตราย จึงได้ให้เบอร์รถพยาบาลมา ตนจึงได้โทรเรียกทันที แต่รถติดมาก ทำให้รถพยาบาลมาถึงช้า ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ จากนั้นก็มีเพื่อนบ้านและหมอมนมาช่วย

ส่วนทาง น.ส.วรารันต์ หุนะปุน อายุ 38 ปี เพื่อนบ้านที่ช่วยตามหมอ กล่าวว่า มีคนวิ่งมาบอกตนว่ามีคนจะคลอดลูก ตนจึงออกไปดู ตนเห็นว่าเด็กออกมาแล้ว อยู่ในถุงน้ำคร่ำ ตนจึงต่อสายคุยกับรถพยาบาลที่กำลังมารับ ซึ่งเขาก็บอกวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อน จึงรีบเอามือจิกถุงน้ำคร่ำให้แตก แต่เด็กไม่ร้อง รถพยาบาลก็ยังมาไม่ถึงในตอนนั้นสามีของตนจะขับรถไปส่งของ จึงได้ให้สามีวิ่งไปตาม หมอมน ให้มาช่วยทำคลอด ทุกคนก็ช่วยกันสวดมนต์ขอให้เด็กรอด แม้ตอนนั้นรู้สึกตกใจมากแต่ก็ต้องให้ความช่วยเหลือ เพราะตนไม่อยากให้เด็กเป็นอะไรไป

ด้านนาย มอง ซอ พ่อชาวเมียนมา ที่ กำลังทำงานก่อสร้าง ด้านหลังคลินิกดังกล่าว บอกว่า ภรรยาท้อง 7 เดือน และบ่นว่าปวดท้อง จึงไม่คิดว่าจะคลอดก่อนหนด และได้ตั้งชื่อลูกว่า “น้องหนึ่ง” เพราะเกิดหน้าบ้านเลขที่ 1 และ ขอขอบคุณคนไทยที่มีน้ำใจ ขอบคุณหมอมน ที่ช่วยชีวิตลูกตนไว้ ขณะเดียวกัน ก็มีผู้รับเหมา นำของใช้เด็กมาให้ นายมอง ซอ ซึ่งนายมอง ซอ ก็ขอบคุณและบอกว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีโอกาสเห็นหน้าลูก เพราะตนกับภรรยา ไม่ได้จดทะเบียน จึงยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ คงต้องรอออกจากโรงพยาบาลก่อน

ขอบคุณภาพจาก เพื่อนซี้สี่ขา ประสาหมอมน

related