svasdssvasds

แพทย์ท้อ! ญาติผู้ป่วยข่มขู่ ทุบกระจกแตก หัวร้อนขอแซงคิวรักษา

แพทย์ท้อ! ญาติผู้ป่วยข่มขู่ ทุบกระจกแตก หัวร้อนขอแซงคิวรักษา

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

แพทย์หญิงเผยภาพกระจกห้องฉุกเฉินถูกทุบแตกโดยญาติผู้ป่วยที่ไม่พอใจการรอคิวรักษา แพทย์ชี้ทุกอย่างมีกระบวนการทำตามขั้นตอนที่เป็นหลักสากลบนพื้ยฐานความปลอดภัย ชี้หมอ พยาบาล และทีมงานต่างขวัญเสียต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

3 ก.ค. 62 เฟซบุ๊กชื่อ Apichaya Sukprasert แพทย์หญิงเล่าเหตุการณ์ความไม่พอใจของญาติผู้ป่วยที่รุนแรงถึงขั้นทุบกระจกห้องฉุกเฉินแตก ร่ายยาวสุดท้อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทำงานเต็มที่แต่กลับถูกคุกคามแบบนี้ "เมื่อวานเกิดเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดครั้งหนึ่งของห้องฉุกเฉินของเรา ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับเสียกำลังใจอย่างมาก ช่วงนี้ไข้ชิคุนกุนย่าและไข้เลือดออกกำลังระบาดคู่กัน ในวันหนึ่งๆจึงมีคนไข้มาปริมาณมาก ช่วงก่อนเที่ยงคืน มีคนไข้มาที่ห้องฉุกเฉินเล็กๆของเราเกือบร้อยคน บุคลากรยังเท่าเดิม แต่ทำงานกันอย่างหนัก อ่อนเพลียเกินกำลัง คนไข้บางคนทนรอไม่ไหว จึงโวยวายขึ้นและขอแซงคิว เจ้าหน้าที่พยายามให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างยุติธรรม แต่ก็มีการข่มขู่ สุดท้ายจำต้องให้แซงคิวเพื่อระงับความวุ่นวาย ซึ่งทุกคนรู้สึกเสียใจ

ความจริงห้องฉุกเฉินตรวจตามระดับความเร่งด่วน คนที่ได้สีเขียว(ไม่ด่วน)​ต้องรอคนไข้ที่หนักกว่าหมดก่อน ซึ่งไม่เคยหมด เราจึงต้องแบ่งกันออกมารีบตรวจ เพื่อให้คนไข้สีเขียวได้ตรวจบ้าง ส่วนในสีเดียวกันเรียงตามคิวก่อนหลังช่วงเที่ยงคืนเราเปลี่ยนเวรกัน แต่เกิดเหตุฆ่าปาดคอหมู่ แพทย์เวรเมื่อคืนจึงลงมาช่วยกันตรวจให้เคสทุกเคสผ่านไปได้ แต่อัตรากำลังพยาบาลไม่สามารถเพิ่มได้ แถมต้องแบ่งคนไปออกเหตุ เหตุการณ์จึงยิ่งตึงเครียด หลังเหตุการณ์ค่อยๆคลี่คลาย ขณะนั้นเองก็มีญาติคนไข้คนหนึ่งไม่พอใจ คนไข้มีโรคประจำตัวเดิม ครั้งนี้มีอาการหลายวัน จึงมาตรวจดึกนี้ พอรอนาน ก็ไม่พอใจ พอดีอาการเกิดเปลี่ยนแปลงขึ้น จึงบันดาลโทสะ ทุบประตูกระจกของ รพ. แตก และเข้ามาด่ากราดเจ้าหน้าที่ภายใน ที่จริงข้างๆประตูนั้นมีหน้าต่างอยู่ มีป้ายแปะ สามารถเลื่อนเข้าออกขอความช่วยเหลือได้ แต่เพราะขณะนั้นอาการคนไข้อื่นๆตึงเครียด เจ้าหน้าที่ในเวรอ่อนล้าเต็มทน ได้แต่พยายามทำงานของตนไป และประคับประคองคนไข้กับเพื่อนร่วมงานให้ผ่านพ้นคืนนั้นไปได้

เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเสียกำลังใจ อ่อนล้าอ่อนแรงเต็มที จนเช้าวันนี้ยังไม่มีคำขอโทษใดๆ คำด่าและการประทุษร้ายยังวนเวียนอยู่รอบตัวเรา ส่วนตัวเราเองรู้สึกปัจจุบันผู้คนเปลี่ยนไป บางสิ่งไม่ถูกใจ แต่อาจถูกหลักการ สิ่งที่เราควรทำคือสอบถาม หากเห็นว่าไม่ถูกควรร้องเรียนเป็นระบบเพื่อช่วยกันสร้างสังคมที่ดีกว่า โรงพยาบาลเป็นของประชาชนทุกคน การรักษาเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน แต่เมื่อมีสิทธิ์ย่อมต้องมีหน้าที่ตามมา เราใช้บริการ ย่อมต้องช่วยกันรักษา ช่วยกันดูแลระบบนี้ให้แข็งแรงและอยู่รอดไปด้วยกัน ป.ล.ตอนนี้กระจกเป็นรูโบ๋ เลยเอาแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดมาติดไปก่อน และช่วงชุลมุนอุปกรณ์การแพทย์หายไป ตอนนี้ยังไม่รู้ทำยังไงเลย ท้อแท้"

 

related