ตำรวจเล่า แม่หัวขโมยลักเงินกฐิน 160 บ. ซื้อข้าวให้ลูก ดำเนินคดีปรับ 5 พัน
ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
เคสคดีความที่สะท้อนสภาพสังคม และเศรษฐกิจ ตำรวจเล่าถึง แม่บ้านร้านฟาสต์ฟู้ดที่ขโมยเงินห้างสรรพสินค้าจำนวน 160 บาท แต่ต้องมาสะดุดตอนที่ลูกของเธอถามหน้าห้องขังว่า "แม่ทำทำไม แม่สอนผมตลอดว่าต่อให้เราไม่มีกินก็ห้ามขโมยของคนอื่น" จากนั้นความรู้สึกของพี่ตำรวจก็พรั่งพรูออกมา แต่สุดท้ายก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายตำรวจหนุ่มเล่าผ่านเฟซบุ๊กชื่อ Jaturong Prombooth เกี่ยวกับคดีความของหญิงวัย 54ปี ที่ไปลักทรัพย์จำนวน 160 บาท (เงินทำบุญกฐินที่เสียบไม้ซึ่งวางตั้งไว้ในห้างแห่งหนึ่งในท้องที่) ก่อนสอบสวนได้ใจความถึงเหตุผลที่กระทำ "เงินที่ขโมย160บาท จะเอาไปซื้อข้าวให้ลูก2คน (อายุ12และ13)กิน เนื่องจากเงินที่ได้ในแต่ละวันไม่พอใช้ นาง ก. รับจ้างล้างจานในร้านฟาสฟู้ด ได้ค่าแรงวันละ300 บาท"
จุดพีคคือ "ลูกชายวัย13ขวบ มาถึงโรงพักก่อน วิ่งเข้ามาในห้องสอบสวน มาถึงก็ร้องไห้ไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าแม่จะโดนจับ
"แม่ทำทำไม แม่สอนผมตลอดว่าต่อให้เราไม่มีกินก็ห้ามขโมยของคนอื่น" แม่ก็ขอโทษลูกๆๆๆ จังหวะนั้นคือร้อยเวร พี่ๆน้องๆพนักงานสอบสวนก็เดินออกจากห้องเลย (ถ้าอยู่ก็ร้องไห้ตรงนั้นอ่ะ)"
เด็กทั้ง2 นั่งเฝ้าร้อยเวรสอบปากคำแม่ ไอ่ลูกชายก็ไปซื้อข้าวซื้อน้ำให้แม่ และไปหาผู้ใหญ่ที่พอจะไปธุระที่ศาลได้ ลูกสาวมาถึงก็เดินไปบอกร้านฟาสต์ฟู้ดที่แม่ทำงานเพื่อแจ้งว่าแม่มีธุระต้องไปศาล ขอลางาน1วัน เด็กกลับมาบอกว่า "ผจก.ร้านไม่เชื่อ" มันก็ไม่น่าเชื่อนะที่เด็ก12ขวบมาขอลางานให้แม่ เพราะแม่ต้องไปขึ้นศาลอ่ะ สอบปากคำเสร็จจะนำแม่เข้าห้องควบคุม พี่ๆ... หนูขอนอนกับแม่(ในห้องขัง)ได้ไหม? "พี่ไม่อนุญาต" "ถ้าหนูจะนอนพี่ให้หนูนอนตรงเบาะห้องประจำวัน" (มีแอร์, ทีวี) จากนั้นเราก็ชวนน้องคุย... น้องก็โตเกินวัยนะ เพราะสภาพสังคมมันทำให้น้องต้องสู้อ้ะ น้องรู้หมดว่าถ้าที่ทำงานรู้ว่าแม่ต้องไปขึ้นศาล"ในฐานะผู้ต้องหา" แม่คงตกงาน เราเลยถือโอกาสสอนน้องให้อดทน ตั้งใจเรียน เติมเงินมือถือให้ เพราะน้องโทรออกไม่ได้ "เผื่อมีไรให้โทรติดต่อพี่นะ" พอน้องเดินกลับไปจึงเห็นในระยะสายตาว่า... แม้แต่รองเท้าน้องก็ยังไม่มีใส่
สรุปเหตุการณ์ ซึ่งสุดท้ายทางห้างฯผู้เสียหายไม่เอาความ แต่คดีนี้ยอมความไม่ได้ ศาลสั่งปรับ 5,000 บาท ข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งตำรวจหนุ่มเผยมีผู้ใจบุญโอนเงินช่วยเหลือเพราะเห็นแก่อนาคตเด็ก และไม่รับบริจาคเด็ดคาดไม่ว่าจากหน่วยงานใด ยืนยันขโมยของเป้นความผิดแต่ที่ช่วยเหลือเป็นเพราะ "แต่การที่ผมแชร์เรื่องนี้เพราะว่า ปกติผมก็ขี้บ่นชอบระบายอยู่แล้ว และไม่คิดว่าจะมีคนมาสงสารเห็นใจจนมาช่วยเหลือกันมากมาย.... คุณแม่ที่ไปลักขโมย ผิดก็คือผิดเค้าคือคนผิด... แต่เคสนี้ก็ดีใจที่คนพร้อมให้โอกาสในขณะที่ทางผู้เสียหายคือห้าง เค้าไม่ได้ทำผิดอะไรและถ้าพูดตามตรงเค้าเสียหาย หากปล่อยปะละเลยก็อาจมีการกระทำความผิดซ้ำ ดังนั้นการนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการกฎหมายของห้างก็เป็นเรื่องที่สมเหตุ สมผล และการให้โอกาสจากสังคมก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี"
"ไม่ใช่เพราะแม่ไปหยิบของคนอื่นมาแล้วได้รับผลตอบแทนแบบนี้ ที่ทุกคนช่วยกัน เพราะอยากให้เด็กๆเป็นอนาคตที่ดีของสังคม นี่ไม่ใช่การตอบแทนที่ไปทำผิด แต่เราควรช่วยคนที่กำลังเดือดร้อน ที่ช่วยนี่เพราะเคยลำบากยากจนมาก่อน เคยเพราะไม่มีเงินตอนเด็กๆ แต่เพราะมีโอกาสได้เรียน ได้ทำงานที่ดี ได้สังคมดีๆ เลยมีโอกาสช่วยคนอื่น..."
ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ให้โอกาสครอบครัวนี้ กลับสู่สังคม ซึ่งผมมั่นใจว่าไม่ได้มีแค่ครอบครัวนี้ครอบครัวเดียวแต่ยังมีอีกเป็นร้อยๆครอบครัวที่ประสบปัญหาเช่นนี้ ปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ความสามารถในการเข้าถึงปัจจัย4ที่ไม่เท่ากัน ผมเชื่อว่ามันเป็นสิ่งบีบคั้นที่ทำให้คนก่ออาชญากรรม ซึ่งก็ต้องมองเป็นกรณีๆไป แต่กรณีนี้จากการเป็นพนักงานสอบสวนมาเกือบๆ 2 ปี ถือว่าสะท้อนสังคมได้มากที่สุด
