ชื่นชม! ดญ. ม.1 นำน้องมาเลี้ยงที่โรงเรียน เพื่อให้แม่ไปทำงานหาเงิน

กรณี น้องเอ นามสมมุติ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านบึงโน จ.สกลนคร เดินเข็นรถเข็นเด็กพาน้องชายวัย 1 ปี 9 เดือน ไปเลี้ยงที่โรงเรียนที่อยู่ห่าง บ้านไปประมาณ 700 เมตร เป็นกิจวัตรประจำวันมาเกือบ 2 อาทิตย์ และภาพที่คุณครูในโรงเรียน ต่างช่วยกันเลี้ยงดูเด็กชายต้นกล้า ได้ถ่ายภาพไว้ เพื่อเก็บเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ดูแลน้องในช่วงวัยเด็ก และความต้องการส่วนหนึ่งคืออยากให้ พี่สาว คือ น้องเอ ได้มีเวลาเรียนกับเพื่อนๆ ได้เต็มเวลาเรียน จนเมื่อมีการโพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊ก ทำให้มีการแชร์ภาพและนำเรื่องราวออกไป จนได้รับกระแสชื่นชม ทำให้มีหลายหน่วยงาน อาทิ กิ่งเหล่ากาชาด อ.สว่างแดนดิน กองการศึกษา เทศบาล ต.โคกศรี รพ.สต.โคกศรี และสำนักงานการประถมศึกษา เขต2เข้ามาสอบถามข้อมูลหาแนวทางช่วยเหลือ

เรื่องนี้ นายสุภพ พิลาโสภา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงโน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมวันเด็ก ทางแม่น้องเอ ได้มาปรึกษาว่า ต้องการให้ลูกสาว ออกจากโรงเรียนเพื่อไปเลี้ยงน้อง แต่จะให้ไปเรียนในระบบการศึกษานอกโรงเรียนแทน แต่ตนเองมองว่า น้องเอ เป็นเด็กที่เรียนกับโรงเรียนมาตั้งแต่ชั้นประถม และมีครูที่ปรึกษาคอยดูแล น่าจะมีโอกาสเรียนจนจบระดับมัธยมต้น และที่ผ่านมาทางโรงเรียน ก็ช่วยเรื่องของทุนการศึกษามาตลอด จึงปรึกษากับทางคณะครูโรงเรียน ว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร จึงอนุญาตให้นำน้องมาเลี้ยงที่โรงเรียน โดยจะมีครูในโรงเรียนที่ว่างจากการสอน มาช่วยดูอีกทางหนึ่ง เพื่อให้น้องเอ ได้เรียนหนังสืออย่างเต็มที่ เพราะประมาณเดือนมีนาคมนี้ จะมีการสอบปลายภาคและปิดเทอม และช่วงดังกล่าว น้องชาย ก็จะมีอายุเข้าเกณฑ์ ที่จะสามารถเข้าดูแลที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบึงโนในได้ จะสามารถบรรเทาปัญหาในส่วนนี้ได้ ส่วนหาก น้องเอ จะเรียนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ก็จะประสานไปยังโรงเรียนราชประชานุเคราะห์53 อ.พรรณนานิคม จ.สกลนคร เพราะการเรียนทางครอบครัวไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร มีที่พักฟรี อุปกรณ์การเรียน ชุดอะไรก็ฟรีหมด แต่เด็กต้องไปอยู่พักประจำเท่านั้น

ด้าน แม่น้องเอ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องให้น้องออกจากโรงเรียน เพราะไม่มีใครคอยดูแลน้องชาย และพ่อของตนเองก็มาประสบอุบัติเหตุ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 62 กลายเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง ส่วนตนแยกทางกับสามีทำงานที่กรุงเทพฯ เมื่อแยกกันอยู่ตนเองจึงพาลูกชายกลับมาที่บ้านเพื่อดูแลพ่อ และทำงานรับจ้างรายวัน เป็นลูกจ้างทำงานก่อสร้าง โดยจะนำลูกชายไปทำงานด้วยทุกวัน แต่สภาพการทำงานมีฝุ่น มีเศษไม้ เศษตะปู เกรงจะเป็นอันตรายกับลูก และตนก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มเวลา กลัวเพื่อนร่วมงานมองไม่ดี

จึงตัดสินไปที่โรงเรียนเพื่อจะพาลูกสาว น้องเอ ไปลาออก เพื่อจะได้มาดูแลน้อง และตาที่นอนป่วย เพราะลูกสาว เริ่มโตสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ รวมถึงการทำกับข้าว ดูแลน้อง ดูแลคุณตาได้ ซึ่งแต่ละวันตนเองก็ต้องอาศัยเงินค่าจ้างรายวัน วันละ 300บาท เพราะจบการศึกษาแค่ประถม 6 หากวันไหนหยุดงาน ก็จะไม่มีรายได้ จึงตัดสินแก้ปัญหาเพราะไม่มีใคร ตนเองเป็นผู้ที่ต้องดูแลครอบครัว แต่เมื่อมีทางออก และมีคนเข้ามาช่วยเหลือก็ดีใจ และขอขอบคุณทุกน้ำใจ ที่จะมอบโอกาสการศึกษาให้กับลูก ไม่ต้องมาลำบากเหมือนตนเอง แม่น้องเอ กล่าว