คนไทยในอังกฤษแห่ขอรับใบรับรองเพื่อกลับไทย จนล้นสถานทูต หลัง กพท. ออกประกาศฉบับใหม่ เพิ่มระดับมาตรการป้องกันโควิด 19 ถาม ถามเจ็บ คนชาติตัวเองถูกปฏิเสธเข้าประเทศได้หรือ?
จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เริ่มแพร่ระบาดไปทั่วโลก ส่งผลให้คนไทยที่อยู่ต่างประเทศต้องการเดินทางกลับประเทศไทย
ทั้งนี้ทาง สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ออกประกาศฉบับใหม่ กำหนด ผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทุกประเทศ ต้องมีใบรับรองแพทย์ โดยชาวต่างชาติต้องมีประกันภัยโควิด-19 ไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญดอลลาร์ ส่วนคนไทยต้องมีหนังสือรับรองจากสถานทูตด้วย ซึ่งเริ่มบังคับใช้ 22 มีนาคม นี้นั้น
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก Amthaipaper (หนังสือพิมพ์ไทยในอังกฤษ) ได้โพสต์ภาพบรรยากาศหน้าสถานทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ที่มีคนไทยจำนวนมากแห่ต่อคิวแน่น เนื่องจากมีบริการแพทย์ไทยตรวจร่างกายและออกใบรับรองให้
ขณะที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sirada K Ning ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ระบุว่า
ผู้บริหารระดับประเทศไม่ใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่จัดการปัญหาอย่างบูรณาการ ผลกรรมตกอยู่กับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ รวมถึงประชาชนเอง ..
สถานการณ์
1. ประเด็นล่าสุดคือเรื่องที่ให้คนไทยในพื้นที่เสี่ยงที่อยากกลับไทยต้องขอใบรับรองนั่นนี่อย่างวุ่นวาย และประกาศอย่างกระชั้นชิด สร้างความสับสน แม้กระทั่งในหมู่ข้าราชการเอง
2. ตอนนี้ที่ลอนดอน ทางสถานทูต สนร. และนักเรียนทุนด้านแพทย์และวิทยาศาสตร์บางคนต้องมาช่วยกันแก้ปัญหาหน้างานเอาเอง อาสาสมัครมาช่วยตรวจและหาอุปกรณ์กันเอง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการหาใบรับรองแพทย์ในระยะเวลากระชั้นชิดแบบนี้
3. ทางออกเพิ่งคิดกันได้หลังเที่ยงคืนเมื่อคืนนี้ เพราะประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนก็ออกมาตอนเย็นๆเมื่อวานแล้ว (ตามเวลาที่นี่) เป็นทางออกที่ผ่านการเจรจาต่อรองกับที่ไทยแล้วว่าให้อนุโลมเป็นการออกใบรับรองแพทย์จากคุณหมอคนไทย(ภายใต้การดูแลของสถานทูต)ได้
ปัญหา
1. ประกาศนี้มิได้ผ่านการปรึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตที่ต้องมารับภาระหน้างาน ดีลกับประชาชนในต่างแดน ต้องรับคำวิจารณ์จากประชาชนโดยที่ก็ยังไม่มั่นใจในขั้นตอนด้วยซ้ำ และไม่ใช่ทุกสถานทูตจะทำตามด้วย มีบางที่ปฏิเสธที่จะทำ
2. เพราะมันเกี่ยวข้องกับอำนาจของประกาศนั้น ทั้งที่ผู้มีอำนาจในการห้ามคนเข้าประเทศเพื่อประโยชน์ต่อการควบคุมโรคระบาดคือกระทรวงสาธารณสุข แต่สำนักงานการบินพลเรือนใช้อำนาจในการควบคุมการเดินทางมาทำเช่นนี้ ...ตอนนี้เหมือนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะสถานทูตก็ไม่มั่นใจว่าประชาชนถูกปฏิเสธให้ขึ้นเครื่องหรือไมหากไม่มีใบดังกล่าว เกินขอบเขตอำนาจในจุดๆนั้น ตอนนี้จึงเป็นการบริการประชาชนล้วนๆ
3. คนชาติตัวเองควรถูกปฏิเสธการเข้าประเทศตัวเองได้จริงๆหรือ ตรงนี้เป็นหลักการที่สำคัญมากที่ข้าราชการกระทรวงต่างประเทศก็ยังไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตรงนี้รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีควรจะมาช่วยควบคุมดูแลไหม ทำให้ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
4. ประกาศนี้ผลักให้ประชาชนต้องเสี่ยงต่อโรคมากขึ้น เพราะต้องมารวมกันอย่างแออัดในจุดเดียว คุณหมออาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ก็เสี่ยงไปด้วย และเจ้า fit to fly certificate ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าไม่มีcovidนะ เป็นการตรวจร่างกายคร่าวๆ เช็คความดัน เช็คออกซิเจนในเลือด ...ถ้าไปหาprivate GP ก็เสี่ยงที่จะเจอบริการที่แพงจนเกินเหตุ หรือหากอยู่นอกลอนดอนก็หาบริการได้ยากมากๆ
5. ณ สถานทูต ก็ยังไม่วายมีคนบางส่วนพยายามอยากใช้อภิสิทธิ์หน้างาน ขอลัดคิวในการตรวจโดยการอ้างผู้ใหญ่ท่านนั้นท่านนี้ อยากบอกพวกท่านว่ายามหน้าสิ่วหน้าขวานยังจะมาเบียดเบียนคนอื่นๆอีก พอเถอะ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานทูตด้วยที่ยืนหยัดให้บริการประชาชนเต็มที่
สรุป.. รัฐบาลส่วนกลางคุณจะไม่ใช้อำนาจบริหารที่มีอยู่ล้นมือทำอะไรเลยหรอ ตอนนี้รัฐราชการมากๆ แต่ละหน่วยงานต้องมาดำเนินงานกันเอาเอง ไล่มาตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ตอนนี้ก็มากระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงคมนาคม ... ยังไม่รวมหน่วยงานระดับจังหวัดทั้งหลาย เหมือนปกครองกันเองแล้ว
ด้าน เฟซบุ๊ก Royal Thai Embassy, London UK ได้ออกมาโพสต์ข้อมูลแจ้งว่า ทางสถานทูตจะเปิดหน่วยบริการพิเศษขึ้น ที่โรงแรม Hilton Garden Inn Heathrow Terminal 2, Meeting 1-2 (Royal Thai Embassy) เพื่อเป็นจุดขอรับหนังสือรับรองการเดินทางจากสถานทูต ตั้งแต่วันที่ 20-31 มีนาคม 2563 ระหว่างเวลา 08.00 - 20.00 น. โดยต้องแสดงหนังสือเดินทาง บัตรโดยสารเครื่องบิน และใบรับรองแพทย์ (Fit to Fly) ด้วย