"ด็อกเตอร์คิดนี่" อธิบายกรณีพบสารโคเคนจาก "ยาอะม็อกซีซิลลิน" ในตัว "บอส อยู่วิทยา" ยืนยันสารประกอบในตัวยาไม่มีส่วนผสมของ "โคเคน" แน่นอน!
จากกรณีโลกโซเชียลเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนัก ภายหลังจากที่มีการเปิดเผยว่า สารเสพติดที่ถูกตรวจพบในตัว บอส อยู่วิทยา เป็นสารเสพติดโคเคน เนื่องจากมาจากการทำฟัน
ล่าสุด พญ.ศศิธร คุณูปการ หรือ ด็อกเตอร์คิดนี่ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก Doctor Kidney-ด็อกเตอร์คิดนี่ ตอบคำถามสุขภาพโรคไต ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นระบุว่า
วันนี้หมอจะมาว่าด้วยประเด็นร้อนเรื่องยา "อะม็อกซี่ (Amoxy)" หรือชื่อเต็มก็คือ "อะม็อกซีซิลลิน (Amoxycillin)" กันค่ะ ตั้งแต่เมื่อวานเราคงได้ยินชื่อยาตัวนี้ผ่านสื่อต่างๆ ว่ามีการใช้ยาในการรักษาหลังจากทำฟัน แล้วมีการแจ้งผลว่าพบ"โคเคน"จากยาปฏิชีวนะตัวนี้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรวันนี้หมอจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
#ยาอะม็อกซีซิลลิน เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มเพนนิซิลิน(Penicillin) มีลักษณะเป็นเม็ดแคปซูลสีเขียวฟ้า (บางยี่ห้อสีเหลืองแดง) โดยทั่วไปใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนต้น โรคติดเชื้อในช่องปาก หรือโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับยาชนิดนี้คือคิดว่าเป็น"ยาแก้อักเสบ"หรือ"ยาแก้เจ็บคอ" เพราะมีร้านยาจำนวนมาก เมื่อคนไข้ไปหาด้วยอาการเจ็บคอก็มักจะจ่ายยาตัวนี้ให้ โดยไม่ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
ทั้งที่จริง "อาการเจ็บคอ" โดยส่วนใหญ่เกิดจาก"เชื้อไวรัส" ไม่จำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะที่ใช้สำหรับ "ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย"
หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อแล้ว โดยทั่วไปต้องกินยาต่อเนื่องนาน 7-10 วัน เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรืออาจจะพิจารณาใช้เป็นยาฉีดในกรณีที่ไม่สามารถกินยาได้
ตัวยาจะขจัดออกจากร่างกายผ่านการ "กรองของไต" โดยสารประกอบที่ขับออกมาไม่มีส่วนผสมของ "โคเคน" แต่อย่างใด จึง"เป็นไปไม่ได้"ที่จะเจอสาร "โคเคน"หลังจากทานยาตัวนี้ ในฐานะที่ได้สั่งยาตัวนี้เป็นประจำ "ไม่เคย" เลยสักครั้งที่พบรายงานว่าผู้ป่วยตรวจเจอ"โคเคน"หลังทานยา
ดังนั้นหยุด!!สร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคมไทยเสียที อย่ามาอ้างนู่นอ้างนี่ "โคเคนก็คือโคเคน" ไม่ใช่ยาชา ไม่ใช่ยาอะม็อกซีซิลลิน #ลูกผู้ชายตัวจริง กล้าทำกล้ารับเสียที ด้วยความโมโหและหงุดหงิดใจ