ชาวโซเชียลฯ ฉะ มนุษย์ป้าคว้าหมวกกันน็อคทุบสาว ม.แม่โจ้ ฉุนขับรถตามมา
สื่อโซเชียลฯ เผยภาพมนุษย์ป้าคว้าแผลงฤทธิ์ คว้าหมวกกันน็อคทุบนักศึกษา ม.แม่โจ้ หลังมีเรื่องทะเลาะกันเรื่องขับรถตามกันมา
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ดา ลิ้ง ได้โพสต์คลิป พร้อมกับข้อมูลในขณะที่กำลังมีปากเสียงกับสาวใหญ่คนหนึ่ง จากนั้นเริ่มมีการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น โดยจากการตรวจสอบข้อมมูลเบื้องต้นนั้นทราบว่า หญิงสาวที่เป็นคนถ่ายคลิปนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์ จากCP Fresh Mart(เดิม) ที่ตั้งอยู่บริเวณกาดคาวบอยหน้า มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อเข้าไปในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ แต่ขับออกมาได้แค่นิดเดียวคุณป้าคนนี้ก็ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีขาวแดงมาเจอกับหญิงสาวคนดังกล่าว จากนั้นป้าก็จอดรถแล้วเดินเข้ามาหาที่น้องที่เป็นคนถ่ายคลิป แล้วเอาหมวกกันน็อคคู่กายทุบพร้อมกล่าวหาว่าเห็นน้องขับรถตามนางหลายครั้งแล้ว เป็นไรมากหรือปล่าว ตามคลิป
จากนั้นหญิงสาวคนที่เป็นคนถ่ายคลิปก็ได้เปิดหมวกกันน็อคให้ป้าเห็นหน้าชัดๆ แต่ป้าก็ยังไม่หยุดตีน้องแถมหยิบสมาร์ทโฟนในกระเป๋าสะพาย ขึ้นมาถ่ายคลิปน้องไว้ น้องสาวตัวน้อยผู้มีเลือดนักสู้ของเราก็เลยถอดหมวกกันน็อคทุบป้าบ้าง แบบไม่ยอมกัน เดชะบุญแฟนน้องอยู่แถวนั้นเลยทันเห็นเหตุการณ์พอดีจึงวิ่ง 4x100 เข้าไปช่วย ป้าจึงเบาลงและใส่ร้ายน้องให้แฟนน้องฟังว่าน้องเป็นคนเข้าไปตีป้า ป้าไม่ได้ทำไรเลย พร้อมทั้งด่าน้องด้วยถ้อยคำหยาบคายที่คนเกิดในวังอย่างพวกเราๆ เค้าไม่พูดกัน จากนั้นแฟนน้องจึงเรียกตำรวจแล้วบอกว่าถ้าน้องทำป้าก่อนให้อยู่คุยกับตำรวจก่อน ป้าตอบตกลงแต่มือเปียรถเครื่องแว๊นลงฟุตบาทหนีไปอย่างโวยโตยปอบะตัน"
ในเบื้องต้นน้องผู้หญิงที่เป็นเจ้าของคลิปได้แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่โจ้ไว้แล้ว และมีสำนักข่าวหลายแห่งให้การว่าคุณป้านางนี้มีสติไม่สมประกอบ และทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ทางผู้สื่อข่าวจึงสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผกก.สภ.แม่โจ้ ซึ่งกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นทางพนักงสอบสวนได้ส่งตัวหญิงสาวที่ถูกมนุษย์ป้าใช้หมวกกันน็อคทุบไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้จะได้เชิญตัวมาสอบปากคำอีกครั้งในเรื่องของการดำเนินคดี ส่วนมนุษย์ป้าคนดังกล่าวนั้น จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพบว่าได้พักอาศัยอยู่เพียงลำพังไม่มีญาติ ซึ่งชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ข้างเคียงนั้นก็ได้ให้ข้อมมูลว่ามีลักษณะของบุคคลสติไม่สมประกอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ส่งตัวไม่ตรวจสอบอีกครั้งที่โรงพยาบาล
ที่มา :
