เร่งผลักดันน้ำออก! ภาคอีสาน อ่วมฝนถล่ม ระดับน้ำยังทรงตัว

น้ำโขงบึงกาฬยังเพิ่มระดับ สูงขึ้นอีก 9 เซนติเมตร

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงจังหวัดบึงกาฬ ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด ระดับน้ำอยู่ที่ 12.75 เซ็นติเมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 9 เซนติเมตร จึงส่งผลกระทบให้น้ำโขงหนุนสูง และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะ หมู่บ้านเทพมีชัย หมู่ 7 ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ ที่ระดับน้ำ ลึกถึง 60 ถึง 80 เซ้นติเมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้

ทางด้าน นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม พร้อมสั่งการให้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. จัดรถเคลื่อนย้าย ที่มีความสูง ลุยน้ำได้ลึก รวมถึง เรือท้องแบน เรือพาย จากทุกหน่วย ออกให้บริการรับ-ส่ง งประชาชนที่จะเข้าออกหมู่บ้านจนกว่าระดับน้ำจะกลับสู่ภาวะปกติ

นอกจากนี้ ยังให้หน่วยแพทย์และสาธารณสุขจังหวัด ตั้งจุดบริการแพทย์ ให้ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อที่มากับทางน้ำ พร้อมให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพในช่วงที่ประสบภัย

อุบลฯ ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำช่วยเกษตรกรน้ำท่วมนาข้าว

ด้าน นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์แม่น้ำชี ที่บริเวณเขื่อนธาตุน้อย ตำบลธาตุ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี พบว่า มีระดับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจาก มวลน้ำที่ท่วมในพื้นที่ตอนบน เช่น จังหวัดยโสธร และ ร้อยเอ็ด ได้ไหลลงแม่น้ำชีและไหลลงสู่แม่น้ำมูล ในเขตตัวเมืองอุบลราชธานี

ขณะที่ สำนักงานชลประทานที่ 5 อุบลราชธานี ได้นำเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 12 เครื่อง ไปติดตั้งบริเวณประตูเขื่อน เพื่อผลักดันน้ำจากเหนือเขื่อนให้ระบายลงแม่น้ำมูล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำนาถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย

หนองคาย น้ำโขงยังสูง เทศบาลเร่งสูบน้ำออก

ขณะที่ สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดหนองคาย เริ่มทรงตัว และลดลงเล็กน้อย ล่าสุด วัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ อยู่ที่ระดับ 11.32 เมตร ลดลงจากช่วงเดียวกันของเมื่อวานนี้ 40 เซ็นติเมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 88 เซ็นติเมตร แต่ถือว่า ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่ และยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยทางเทศบาลเมืองหนองคาย ยังคงปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 ประตู และเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าขนาดใหญ่ จำนวน 2 เครื่อง

ที่มีการติดตั้งถาวรอยู่ปากประตูระบายน้ำหลัก ที่ชุมชนวัดธาตุ และเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว และ 12 นิ้ว จำนวน 3 เครื่อง ที่ปากประตูระบายน้ำชุมชนสระแก้ว โดยจะเร่งสูบน้ำลงแม่น้ำโขง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การระบายน้ำลงในน้ำโขงได้รวดเร็วขึ้น และป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

สำหรับการผลักดันน้ำชีลงแม่น้ำโขง ครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ เพื่อไม่ให้มวลน้ำที่ผลักดันออก ไปกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูล ในเขตเมืองอุบลราชธานี และเขตอำเภอวารินชำราบ เนื่องจาก ขระนี้ ระดับแม่น้ำโขง ที่อำเภอโขงเจียม ยังคงทรงตัว และลดลงเพียงวันละ 5 ถึง 7 เซ็นติเมตร