svasdssvasds

สสจ.ตรัง ปัดข่าวลือกักตัวผู้ป่วยดูอาการ ยันไม่พบผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า

สสจ.ตรัง ปัดข่าวลือกักตัวผู้ป่วยดูอาการ ยันไม่พบผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ยืนยันไม่มีการกักตัวผู้ป่วยไว้ดูอาการโรคไวรัสโคโรน่าตามข่าวลือ แต่เฝ้าระวังเต็มที่ จับตาคนไทยที่เคยเดินทางไปจีนก่อนหน้านี้ รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทย และเดินทางมาจ.ตรัง

ไวรัสโคโรน่า - วันที่ 1 ก.พ.63 จากกรณีตามแอพลิเคชันไลน์กลุ่มต่างๆ ได้มีการแชร์ภาพ powerpoint ของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีจัดการระดับความเสี่ยงโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ที่มีระดับความเสี่ยงทั้งหมด 3 ระดับ โดยระดับความเสี่ยงน้อย (สีเหลือง) รวม 25 จังหวัด ระดับเสี่ยงปานกลาง (สีส้ม) รวม 17 จังหวัด และระดับความเสี่ยงมาก (สีแดง) 25 จังหวัด ซึ่งในจำนวนนี้มีจังหวัดภาคใต้รวมอยู่ 10 จังหวัด รวมทั้งจังหวัดตรัง

ทำให้ชาวจังหวัดตรังส่งต่อๆกัน ขณะเดียวกันมีการแชร์ข้อความว่า มีการกักตัวผู้ป่วยซึ่งเป็นนักศึกษาที่เดินทางกลับจากเมืองซีอาน ประเทศจีน โดยการเก็บตัวอย่างเชื้อส่งไปตรวจ กทม.และยังอยู่ระหว่างการรอผล ทำให้เกิดความแตกตื่น และเข้าใจว่าจังหวัดตรังพบคนติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแล้ว

สสจ.ตรัง ปัดข่าวลือกักตัวผู้ป่วยดูอาการ ยันไม่พบผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า

ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายแพทย์บรรเจิด สุขพิพัฒน์ปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ได้รับคำยืนยันว่า การจัดลำดับความเสี่ยงโรคไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นpowerpoint ของกระทรวงสาธารณสุขจริง แต่เป็นในช่วงต้น ๆ หลังพบการระบาดของโรคที่ประเทศจีน เพื่อเป็นความไม่ประมาท และกระทรวงฯสั่งให้สธ.จังหวัดต่างๆ ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์

สสจ.ตรัง ปัดข่าวลือกักตัวผู้ป่วยดูอาการ ยันไม่พบผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า

โดยพิจารณาจากคนเข้าพื้นที่มากหรือน้อย เช่น พื้นที่ที่มีสนามบินขนาดใหญ่ ที่มีเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศจีน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมไป โดยสาธารณสุขจังหวัดตรัง ก็ต้องเตรียมพร้อมทั้ง บุคลากร ห้องแยกโรค และการรณรงค์เชิงรุก เพื่อรองรับผู้ป่วยที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นจังหวัดท่องเที่ยว เชื่อมโยงนักท่องเที่ยวระหว่างกัน ทั้งในจังหวัดฝั่งอันดามัน ที่มีเที่ยวบินจากจีนมาลงที่ จ.ภูเก็ต และจ.กระบี่ หรือนักท่องเที่ยวจีนที่มาลงในจังหวัดอื่นๆ แล้วอาจเดินทางต่อมาท่องเที่ยวในจังหวัดตรัง

ทั้งนี้ สธ.ตรัง ได้จัดแบ่งกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังใน 2 ประเภทคือ1.นทท.จีน ที่เข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดตรัง และ 2. คนตรังที่อาจเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศจีน หรือนักศึกษาไปศึกษาที่ประเทศจีนแล้วเดินทางกลับมาจังหวัดตรัง

สสจ.ตรัง ปัดข่าวลือกักตัวผู้ป่วยดูอาการ ยันไม่พบผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า

โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสังเกตอาการตนเอง รวมทั้งบูรณาการร่วมกับโรงแรม ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้สังเกตอาการของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศจีน หากมีเจ็บป่วยด้วยอาการไอ เจ็บคอ มีเสมหะหลังเดินทางกลับจากจีนพื้นที่ระบาดในระยะ 14 วัน ให้เข้าพบเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดครองของโรงพยาบาลต่างๆตลอดเวลา เพื่อตรวจและเฝ้าระวังอาการ

ทั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวและประชาชนมาพบด้วยอาการไข้หวัดธรรมดาแล้วจำนวนมาก ยืนยันว่าข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2563 ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยป่วยไวรัสโคโรน่า ในจังหวัดตรังแต่อย่างใด ซึ่งหากพบทางกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้รายงาน

สสจ.ตรัง ปัดข่าวลือกักตัวผู้ป่วยดูอาการ ยันไม่พบผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ยังกล่าวอีกว่า แม้จะยังไม่พบผู้ป่วยที่เข้าข่ายในพื้นที่ แต่ยังไม่ไว้วางใจกับสถานการณ์ เนื่องจากปัจจัยการเดินทางที่เชื่อมโยงกันเป็นปัจจัยสำคัญ และระยะเวลาการฟักตัวของเชื้อที่อาจจะแสดงอาการออกมาหลังจากนี้

โดย สธ.ตรัง เฝ้าระวังเต็มที่ผ่านจุดคัดกรองผู้ป่วยทุกรพ.ในจังหวัดตรัง รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชน และมีการจัดเตรียมห้องสำหรับผู้ป่วยความดันลบ (Negative Pressure) หรือห้องแยกโรค เพื่อรองรับผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่2019ไว้ พร้อมรับมือผู้ป่วยเต็มที่ ทั้งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง โรงพยาบาลชุมชนอีก 9 อำเภอ และโรงพยาบาลเอกชน อีก 1 แห่ง

สสจ.ตรัง ปัดข่าวลือกักตัวผู้ป่วยดูอาการ ยันไม่พบผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า

related