สธ.ห่วงโควิด-19 ระบาดในสถานที่ทำงาน หลังมีแนวโน้มเริ่มพบ

วันที่ 8 ม.ค.2564 เวลา 15.00 น. ที่ กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ 15 ธ.ค.2563 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อสะสม 5,604 ราย เสียชีวิต 7 ราย ยังอยู่ใน รพ.2,599 ราย อาการหนักใช้เครื่องช่วยหายใจ 8 ราย อยู่ รพ.สนาม โดยส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยมากๆ 1,703 ราย ซึ่ง รพ.สนาม จะเป็นหัวใจในการป้องกันการแพร่ระบาดในจังหวัดที่มีการระบาดมาก คือ ในพื้นที่ควบคุมสูงสูดและพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มข้น อยู่ รพ.เฉพาะผู้ป่วยอาการน้อยหรือฮอสพิเทล 81 ราย และรักษาหายแล้ว 1,306 ราย

ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ ตามมาตรฐานการรักษาของกรมการแพทย์นั้น หากครบ 10 วันแล้วจะถือว่าหายป่วยไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกเพิ่มเติมในกลุ่มเสี่ยงแรงงานต่างด้าวและคนไทยทั่วประเทศ พบว่าแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร และภาคกลางเป็นหลัก ในพื้นที่อื่นๆของประเทศ เช่น ภาคเหนือตรวจไปกว่า 5,000 พบติดเชื้อ 7 ราย หรือภาคใต้ตรวจไปกว่า 12,000 พบติดเชื้อ 30 ราย ถือว่ายังไม่พบการระบาด โดยมีการคัดกรองรวมทั่วประเทศทั้งหมด คนไทย 93,145 พบเชื้อ 449 ราย ต่างชาติ 35,712 พบเชื้อ 77 ราย ไม่ระบุสัญชาติ 1,145 ราย พบเชื้อ 62 ราย รวมค้นหาเชิงรุก 130,002 พบเชื้อ 588 ราย อัตราการพบเชื้อ 0.65 %

"สถานการณ์ประเทศยังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หลายจังหวัดควบคุมสถานการณ์ได้ดี ถ้าหากประชาชนและทุกฝ่ายยังร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติตามมาตรการต่างๆเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เชื่อว่าในปลายเดือนม.ค.นี้จะเห็นภาพที่ผู้ติดเชื้อลดลงอย่างชัดเจน" นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ปฏิบัติหน้าที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อในสถานที่ทำงานเป็นสิ่งที่จะต้องเฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น เพราะเริ่มพบพนักงานในสถานประกอบการหรือสถานที่ทำงานประเภทต่างๆติดเชื้อ ยกตัวอย่าง ในโรงงานแห่งหนึ่ง ที่เริ่มจากพบผู้ติดเชื้อ 1 รายชาวเมียนมากลับจากไปงานแต่งเพื่อนที่จ.สมุทรสาคร ต่อมาพบเพื่อนในที่ทำงานติดเชื้อต่ออีก 16 ราย จนโรงงานมีคำสั่งปิดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2563 หรือกรณีหญิงรายหนึ่ง เป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีประวัติใกล้ชิดผู้ติดเชื้อที่เป็นนักลงทุนของธนาคารซึ่งใกล้ชิดผู้ติดเชื้อจากจ.สมุทรสาคร ต่อมาหญิงรายนี้มีการไปมีกิจกรรมสังสรรค์ปาร์ตี้ และทำให้มีคนติดต่ออีก 4 รายรวมเพื่อนพนักงานบริษัทด้วย

"ขอให้ทุกสถานที่ทำงานมีความเข้มข้นฝนการคัดกรองอาการพนักงานและสังเกตการเจ็บป่วนทหากพบพนักงานป่วยต้องรีบแยกออกจากคนไม่ป่วย รวมถึงต้องกวดขันเข้มขึ้นในการให้ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆและลดกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่และติดเชื้อในสถานที่ทำงาน เช่น ไม่รับประทานอาหารร่วมกันเพราะเป็นจังหวะที่เสี่ยงเนื่องจากไม่มีการใส่หน้ากากป้องกัน อีกทั้ง กิจกรรมสังสรรค์ปาร์ตี้ที่มีความเสี่ยงในการแพร่และติดเชื้อ และให้มีการทำงานจากที่บ้าน(work from home)มากขึ้นในส่วนที่สามารถทำงานที่บ้านได้" นพ.โสภณกล่าว