svasdssvasds

กทม.สรุป "คลัสเตอร์" จุฬาฯ พบผู้ติด "โควิด" รวม 22 ราย

กทม.สรุป "คลัสเตอร์" จุฬาฯ พบผู้ติด "โควิด" รวม 22 ราย

กรุงเทพมหานคร (กทม.) สรุป "คลัสเตอร์" จุฬาฯ พบผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" รวม 22 ราย ชี้สถานการณ์โดยรวมยังควบคุมได้

วันที่ 15 ก.พ. เวลา 20.00 น. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีพบบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติด เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) กรุงเทพมหานคร หรือ ศบค.กทม.ได้รายงานไปเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจขณะนั้นพบติดเชื้อรวม 13 ราย โดยจากการสอบสวนโรคพบว่า มี 1 ราย เป็นบุคคลภายนอก ซึ่งได้มาเยี่ยมพ่อที่พักในหอพักของจุฬาฯ ทุกเสาร์-อาทิตย์ ส่วนอีก 12 รายเป็นเจ้าหน้าที่ของจุฬาฯ ประกอบด้วย พนักงานส่งเอกสาร 2 ราย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 8 ราย และพนักงานทำความสะอาด 2 ราย นอกจากนี้ผลการสอบสวนโรคพบผู้สัมผัสใกล้ชิดเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 230 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 389 ราย

ร.ต.อ.พงศกร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าว กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขยายผลโดยร่วมกันตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้นรวม 22 ราย เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พนักงานทำความสะอาดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคนใกล้ชิดของกลุ่มบุคคลดังกล่าว 

ซึ่งขณะนี้ได้นำผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้กทม.ได้ลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกที่บริเวณตลาดสวนหลวงซึ่งเป็นแหล่งที่บุคลากรของจุฬาลงกรณ์ฯ นิยมไปซื้ออาหารและของใช้จำเป็นเป็นการตรวจเชิงรุกแล้ง 437 ราย ซึ่งไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม

"อย่างไรก็ตามกทม.ได้ SWAB สิ่งแวดล้อม โดยเก็บตัวอย่างบริเวณจุดสัมผัสร่วมต่างๆ จำนวน 20 จุด พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 1จุดคือ บริเวณเครื่องสแกนนิ้วมือและใบหน้าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จึงได้ประสานจุฬาลงกรณ์ฯ ทำความสะอาดเครื่องสแกนฯ ดังกล่าว รวมถึงร้านค้า ตึกแถว ฟุตบาท และสวนหลวงสแควร์เรียบร้อยแล้ว" ร.ต.อ.พงศกร ระบุ

กทม.สรุป "คลัสเตอร์" จุฬาฯ พบผู้ติด "โควิด" รวม 22 ราย

ร.ต.อ.พงศกร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ศูนย์บริการสาธารณสุข 5 และสำนักงานเขตปทุมวัน ได้เข้าไปแนะนำมาตรการทำความสะอาดสถานที่เสี่ยง ประกอบด้วย จุดสแกนใบหน้า จุดสแกนลายนิ้วมือทั้ง 3 อาคาร ได้แก่ อาคารบริการ 1 อาคารบริการ 2 และอาคารจามจุรี 5 ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกจุดได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยที่อาคารบริการ 1 ได้มีการงดใช้การสแกนใบหน้าเปลี่ยนเป็นการให้หัวหน้างานเช็คชื่อแทน สำหรับอาคารบริการ 2 ให้เปลี่ยนเป็นเซ็นชื่อเข้างาน โดยนำปากกาส่วนตัวมาเอง และมีจุดตั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือสำหรับให้เจ้าหน้าที่ใช้ทำความสะอาดมือก่อนและหลังการเซ็นชื่อ ส่วนอาคารจามจุรี 5 ยังคงใช้การสแกนลายนิ้วมือ แต่ได้มีการประชาสัมพันธ์เน้นย้ำให้ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ล้างมือก่อนและหลังสแกนทุกครั้ง

กทม.สรุป "คลัสเตอร์" จุฬาฯ พบผู้ติด "โควิด" รวม 22 ราย

related