จัดเต็ม! "ช้างศึก" ทัพใหญ่บุกใส่ "ติมอร์ฯ" เปิดสนาม "ซูซูกิ คัพ 2018"

มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นำทีม ลงฝึกซ้อมครั้งสุดท้าย ที่ราชมังคลากีฬาสถาน สนามแข่งขันจริงเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ซึ่งการฝึกซ้อมครั้งนี้ ราเยวัช เน้นไปที่การทบทวนแท็คติค โดยเฉพาะจังหวะการเข้าทำในเกมรุก และลูกนิ่งตามจุดต่างๆ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง

ราเยวัช ได้กล่าวถึงความพร้อมก่อนเกมนัดนี้ว่า "ที่ผ่านมาเราฝึกซ้อมตามแผนทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ตอนนี้พวกเราพร้อมแล้วสำหรับการแข่งขันนัดแรกกับ ติมอร์ เลสเต"

"การที่เราได้เล่นในบ้านเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้ไม่มีอาการเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ผมเชื่อมั่นทุกตำแหน่งและมีความแข็งแกร่ง เพราะผมเลือกนักเตะมาเอง และจะไม่ประมาททุกทีมในอาเซียน รวมถึงจะทำผลงานให้ออกมาให้ดีที่สุด"

ส่วน 11 ผู้เล่น "ทีมชาติไทย" ที่คาดว่าจะลงสนาม (ระบบ 4-2-3-1)

ฉัตรชัย บุตรพรหม (ผู้รักษาประตู),

ฟิลิป โรลเลอร์, มานูเอล ทอม บีร์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว,กรกช วิริยอุดมศิริ,

ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์,

มงคล ทศไกร, สรรวัชญ์ เดชมิตร,นูรูล ศรียานเก็ม,

อดิศักดิ์ ไกรษร

ด้าน ติมอร์-เลสเต ภายใต้การคุมทัพของ โนริโอะ สึกิทาเตะ กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 58 ปี ที่ผ่านเข้ามาเล่นใน ''เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ'' รอบสุดท้าย ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ยืนยันว่าจะเล่นอย่างเต็มที่แน่นอน การเจอกับทีมชาติไทยถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทีม เพราะไทยเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในอาเซียน นักเตะของเราเป็นดาวรุ่งหลายคน ซึ่งพวกเขาน่าจะได้ประสบการณ์ที่ดีจากเกมนี้"

สำหรับเกมนี้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้รับรองสถานะให้เป็นเกมระดับ FIFA International ''A'' Match ซึ่งจะทำให้ผลการแข่งขันถูกคิดเป็นคะแนนบนอันดับโลกของฟีฟ่า โดยทีมชาติไทย ในฐานะแชมป์เก่า 2 ครั้งหลังสุด อยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และ ติมอร์-เลสเต จะลงเตะเกมแรกพบกับ ติมอร์ เลสเต ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00 น.

**ข้อมูลน่าสนใจ

สถิติ "ทีมชาติไทย"

ในเอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ 1996-2018

แชมป์ 5 สมัย

แข่ง 63 นัด

ชนะ 40 นัด

เสมอ 14 นัด

แพ้ 9 นัด

ยิง 141 ประตู

เสีย 55 ประตู

-เข้าชิงชนะเลิศมากสุด (8 ครั้งจาก 11 ครั้ง)

-ครองแชมป์มากที่สุด

***ข้อมูล (Goal.com/Thailand)