svasdssvasds

ช่วยกัน! "สมาคมฟุตบอลฯ" จัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพัฒนาวงการฟุตบอลไทย

ช่วยกัน! "สมาคมฟุตบอลฯ" จัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพัฒนาวงการฟุตบอลไทย

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดงานประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย และขั้นตอนการยื่นเอกสาร เพื่อรับเงินสนับสนุนโครงการ FA Development Program ประจำปี 2562 ขึ้น

การประชุมในครั้งนี้ มี พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย คุณกรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมฯ, คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และ ดร.ยงยุทธ ทัพผดุง ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชันแนล จำกัด เป็นวิทยากร พร้อมด้วยตัวแทนจากสโมสรสมาชิกเข้าร่วม

โดย พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้กล่าวว่า “หัวข้อการเสวนาในภาคบ่ายวันนี้ จะเป็นเรื่องของการดำเนินงานตามแผนพัฒนาฟุตบอล 20 ปี ที่ทุกคนได้ช่วยกันระดมความคิดออกมาว่า เมื่อผ่านมา 2 ปี แล้วสมาคมฯ ได้ทำสิ่งใดไปบ้าง เป็นไปตามแผนหรือไม่ และแต่ละท่านมีความเห็นเป็นอย่างไร หรือมีข้อเสนอแนะอย่างไร”

“เพราะแผนที่ถูกเขียนขึ้นนั้น ไม่ได้ถูกเขียนโดยสมาคมฯ เพียงลำพัง แต่เขียนโดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวงการฟุตบอล และสโมสรฟุตบอลที่เข้ามามีส่วนตรงนี้ เราอยากให้ทุกท่านรู้ว่า ในปัจจุบันมีความคืบหน้าไปถึงไหน และเราจะต้องทำอะไรต่อไป ใช้เวลานานเท่าไร ซึ่งทุกท่านคงทราบดีว่า การพัฒนาวงการฟุตบอลนั้นเวลาเพียง 3 ปี 5 ปี ไม่พอ ต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี เพราะเด็กแต่ละรุ่นอายุต้องใช้เวลาในการเติบโต”

ช่วยกัน! "สมาคมฟุตบอลฯ" จัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพัฒนาวงการฟุตบอลไทย

“เรื่องที่ 2 ก็คือ เรามีการทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องความนิยมของแฟนบอลที่มีต่อฟุตบอลไทย ลีกไทย ว่าแต่ละในพื้นที่นั้นเป็นอย่างไร มีประเด็นสำคัญในเรื่องใดบ้าง ความนิยม ความรู้สึกที่แฟนบอลมีต่อทีมเป็นอย่างไร และท่านจะมีวิธีการเพิ่มแฟนบอลอย่างไร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อสโมสรท่าน เพราะการที่มีแฟนบอลเพิ่มขึ้น ก็นำมาซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น”

“อีกเรื่องหนึ่ง คือโครงการ FA Development เราจะชี้แจงว่าท่านต้องทำอย่างไร มีใครที่ริเริ่มการทำแล้วบ้าง ซึ่งทุกท่านต้องรีบจัดทำ เพราะเรามีกรอบเวลาที่จำกัด โดยทั้งหมดนั้นก็เพื่อประโยชน์ในสโมสรของทุกท่าน ทางสมาคมฯ เองอยากจะมอบเงินให้อยู่แล้ว เพียงแต่สโมสรต้องจัดการเรื่องของเอกสารให้ถูกต้อง เพื่อสามารถนำเงินไปใช้ได้”

“เรื่องสุดท้ายคือ เรื่องโครงการปรับปรุงไฟสนามฟุตบอล สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีการเซ็นสัญญา MOU กับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชันแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญมาบรรยายให้ทุกสโมสรทราบว่า รูปแบบของธุรกิจที่จะเข้ามาสนับสนุนเรื่องของไฟฟ้าในสนามนั้นเป็นอย่างไร ท่านจะได้ประโยชน์อย่างไร และท่านจะต้องปฏิบัติอย่างไร และหากสนามนั้นไม่ใช่สนามของสโมสรเอง สโมสรต้องทำอย่างไรบ้าง สุดท้ายแล้ว สิ่งที่สโมสรจะได้คือ สโมสรจะได้ปรับปรุงในเรื่องไฟสนาม โดยไม่ต้องใช้เงินคลังตัวเอง เพราะไฟที่จะมาใช้ต้องเป็นไฟระบบใหม่ ซึ่งประหยัดพลังงาน และลดปัญหาโลกร้อน”

related