ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
กฎหมายลูกตามพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย 9 ฉบับ บังคับใช้เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้ทั้งคนที่จะเข้ามาทำงานเป็น รปภ. บริษัท รักษาความปลอดภัย และบริษัทที่จะว่าจ้างรปภ. ล้วนมีต้นทุนเพิ่มขึ้น เพื่อแลกกับประสิทธิภาพการทำงานที่จะดีขึ้น
"เครื่องหมายของพนักงานรักษาความปลอดภัย" ที่ได้รับอนุญาต ตามกฎหมาย ภายใต้ประกาศคณะกรรมการกำกับธุรกิจรักษาความปลอดภัย ทำให้ใครที่จะเข้ามาทำอาชีพ รปภ. แต่ถ้าไม่มีใบอนุญาต และไม่มีอาร์มสัญลักษณ์นี้ ก็เสี่ยงกับการจ่ายโทษปรับตามกฎหมาที่เพิ่งบังคับใช้
ภายหลังประกาศ พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย การประกอบอาชีพ รปภ.อาจต้องมีขั้นตอนมากขึ้น ซึ่งกว่าจะได้อาร์ม และใบอนุญาต ก็ต้องมีต้นทุนที่เป็นด่านแรกของอาชีพนี้ จึงอาจทำให้เข้ามาทำงานนี้ไม่ง่ายเหมือนเก่า ประกอบกับต้องมีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่า ม.3 และต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าอบรม หลักสูตร รปภ. ไม่ต่ำกว่า 40 ชั่วโมง ทั้งภาคปฏิบัติและภาคทฤษฎี ในสถานที่อบรมที่ต้องได้รับอนุญาต โดยมีค่าอบรมที่กฎหมายตั้งเพดานไม่เกิน 6,000 บาทต่อคน ซึ่งต้นทุนเหล่านี้ผู้ประกอบธุรกิจบริษัทรักษาความปลอดภัยเอง บอกว่าทำให้คนเข้ามาในตลาดแรงงาน ตำแหน่ง รปภ.ลดลง
ผู้ประกอบการธุรกิจ รปภ. เปิดเผยกับสปริงนิวส์ ว่า บริษัทของเขาเป็นบริษัทขนาดกลาง พนักงานรักษาความปลอดภัยประมาณ 200 คน แต่ทั้งประเทศมี รปภ.ประมาณ 4 แสนคน จากกว่า 4,000 บริษัท กำลังได้รับผลกระทบ จากพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย 2558 เพราะภายใต้มาตรฐานของ รปภ.ที่สูงขึ้น แต่อีกแง่มุมหนึ่งย่อมส่งผลดีกับผู้ว่าจ้าง เพราะมีกฎหมายคุมไม่ให้รักษาความปลอดภัยแบบหย่อนยานตามอำเภอใจอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ความเข้มงวดของกฎหมาย ทำให้คนเข้ามาทำงานในรปภ.น้อยลง ผู้ประกอบการ จึงเสนอให้คลายกฎบางอย่างเพื่อให้คนเข้ามาทำงานใน รปภ.
นายลั้ง บัวลอย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูรพาพิทักษ์ จำกัด ระบุว่า ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นรวมถึงบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ต้องคัดคนเข้ามาทำงาน และยกระดับพนักงานของตัวเอง อาจต้องปรับราคาจ้างแพงขึ้น ก็จะทำให้ผู้ว่าจ้าง จ้าง รปภ.ในราคาที่แพงขึ้นเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น