ผู้ชายอายุ 40 กว่า กับอาการบ้านหมุน หัวใจเต้นผิดจังหวะ และน้ำหนักที่หายไป 13 กิโล ใน 10 เดือน เพื่อนๆ เรียกเขา ว่า "Iron ลุง"

คอลัมน์ Young ทัน สัปดาห์นี้ อยากแนะนำให้รู้จักกับชายหนุ่ม คนนึง ชื่อว่า “นันต้า” กับเรื่องราวชีวิต ที่เปลี่ยนได้จริงและเปลี่ยนได้ทัน

คุณนันต้า หรือ คุณนันทพล จันทน์แดง MD บริษัท Art of Golf และ บริษัท Anakyn Production เริ่มต้นแนะนำชื่อเล่นคูลๆนี้ ว่าได้มาจากเพื่อนๆ โรงเรียนสาธิตเกษตร เพราะชื่อจริงยาวไป เพื่อนๆเลยจัดการย่อให้ กับจุดเปลี่ยนของชีวิต สมัยที่รูปร่างพีคๆ (หนักพีคๆ) ตั้งแต่อายุ 30 กว่าๆ น้ำหนักไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ขึ้นมาแตะ 100 กิโลกรัมพอดิบพอดี เมื่อเทียบกับส่วนสูง 175 เซนติเมตร ด้วยเพราะเป็นคน enjoy eating ชอบกินทุกอย่าง ที่สำคัญในแต่ละมื้อ ต้องมาพร้อมเหล้าคู่เบียร์ ไม่เคยขาด

ชีวิตของคุณนันต้า ก็เหมือน working man ที่ใช้ชีวิตวนลูปเดิม คือ เหนื่อย กิน ดื่ม นอน และไม่เก็ตว่า ทำไมทำงานมาเหนื่อยแล้วยังต้องออกกำลังกาย ให้เหนื่อยไปอีก จนปี 2009 ตรวจร่างกาย พบว่า ไขมันในเลือดสูงมาก ความดันสูง 150/100 เคยอยู่ดีๆ บ้านหมุน ร่วงลงไปนอนที่พื้น ค่าตับแย่ แถมหัวใจเริ่มเต้นผิดจังหวะ ตอนนั้นรู้สึกตัวเองเหมือนคนแก่จนเริ่มกังวลว่า อายุจะสั้น !!

กำลังใจสำคัญของคุณนันต้า เขาบอกว่า “เพราะผมมีลูก” “ผมเลยตั้งแรงบันดาลใจให้ตัวเองว่า จะต้องแข็งแรง เพื่ออยู่กับลูกให้นานที่สุด เพื่อดูเขาเติบโต ในทุกช่วงเวลาสำคัญของชีวิต

หลังจากนั้น จึงเริ่มหันมาออกกำลังกาย เลิกเหล้าเบียร์ เลิกบุหรี่ จนน้ำหนักเหลือ 78 kg ใจก็มาเป็นกอง ผลตรวจสุขภาพออกมาดีจนหมองง ทุกอย่างดีมาตลอด จนมาเกิดอุบัติเหตุจักรยานตอนปลายปี 2014 เลยเลิกออกกำลังกายหนักๆ ด้วยความชะล่าใจ น้ำหนักกลับมาใหม่ อีก 10 กิโลกรัม ! เดือนมกราคม ปี 2017 เลย restart การออกกำลังกายและการควคุมอาหารกันใหม่ ด้วยการออกวิ่ง ปั่นจักรยาน อย่างจริงจังอีกครั้ง ใช้เวลา 10 เดือน ลดเหลือ 75 kg หายไป 13 kg

ถ้าถามว่า ระหว่าง การออกกำลังกาย การพักผ่อน กับ การรับประทาน อันไหนสำคัญกว่ากัน คุณนันต้า ตอบว่า สำคัญเท่าๆกัน เพราะทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ ต้องทำงานร่วมกัน ดังนั้น  หากอยากน้ำหนักลด ออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ไม่คุมอาหาร ก็ไม่มีเป็นผล หรือออกกำลังให้ตาย แต่กินแหลก ยังไงก็ไม่ผอมครับ

หรือ บางคนอาจมีสถิติเป็นเป้าหมาย คือ อยากสร้างสถิติ ทำเวลา หรือความเร็วในการแข่ง เช่น วิ่งเร็วขึ้น ก็ต้องหันมาเน้นเรื่องเทคนิค และซ้อมหนักมากหน่อย  ควบคู่กับการคุมการรับประทาน และวินัยในการพักผ่อน

ฟิตขนาดได้รับฉายา ว่า  "iron ลุง" คุณนันต้า เล่าว่า มาจากชื่อรายการแข่งขันไตรกีฬาระยะไกล ที่โหดมากๆ นั่นก็คือ รายการ Ironman Triathlon  คนเข้าร่วมแข่งจะมีเวลา 17 ชั่วโมง ที่จะต้องจบการว่ายน้ำ 3.8 km. ต่อด้วยปั่นจักรยาน 180 km. และปิดท้ายด้วยวิ่งมาราธอน 42 km. แบบต่อเนื่องภายใน 1 วัน  (การแข่งขันไตรกีฬานั้นเริ่มครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศสในระหว่างปี 1920 – 1930 ซึ่งเรียกเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า "Les trois sports" ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีการแข่งขันนี้อยู่โดยอยู่ใกล้กับ Joinville le pont ใน Meulan และ Poissy มีการรายงานครั้งแรกในปี 1920 ในหนังสือพิมพ์ชื่อ "L´Auto" ได้รายงานถึงการแข่งขันนี้ซึ่งประกอบไปด้วยกีฬา 3 ประเภทได้แก่ วิ่ง 3 กม. ขี่จักรยาน 12 กม. และว่ายน้ำข้ามคลอง Marne โดยไม่มีการหยุดพัก) แม้คุณนันต้า จะอายุ 40 กว่านิดๆ แต่กลายเป็นรุ่นใหญ่ ในกลุ่มทีมไตรกีฬา ชื่อ Okus Walrus เลยถูกน้องๆ เรียกว่า ลุงของทีม แต่อย่าประมาท “ไอร่อนลุง”คนนี้นะ

เป็นนักกีฬาสายโหด อย่าไปกลัวอุบัติเหตุ คุณนันต้า เคยจักรยานล้มที่สกายเลนมาแล้ว

ตอนนั้นเกิด 10 ธ.ค.ปี 2014 เป็นสกายเลนยุคแรกๆครับ ยังเป็นสนามเขียวอยู่ ผมเอาเสือหมอบคันที่ไม่ค่อยได้ปั่น ไปService กลับกลายเป็นที่มาของอุบัติเหตุ เพราะช่างดันไปฝืนใส่ขันเกลียวบันไดปั่น ทำให้เกลียวเสียหาย

ถ้าคนปั่นจักรยานจะรู้ว่า บันไดถีบรถจักยาน จะเป็นตัวล็อคติดกับรองเท้าผู้ปั่น (ภาษาจักรยาน เรียกแบบคลีต) เพื่อให้คนปั่นเป็นส่วนเดียวกับรถ ออกแรงปั่นได้ดีกว่าการใส่รองเท้าธรรมดามาถีบจักรยาน  วันนั้นปั่นไปเป็นกลุ่ม ความเร็วน่าจะ 40++ Km./Hr. และแล้วบันไดที่เสียหาย ก็หลุดออกมา ทำให้ขาที่กำลังออกแรงกด วืดลงกับพื้น รถจักรยานเสียหลัก

เนื่องจากปั่นกลุ่มใหญ่อยู่ แว้บแรก ที่นึกออก คือ ถ้าล้มข้างที่เอียงไป จะล้มไปใส่กลุ่มที่ปั่น จะโดนทับ แล้วล้มระเนระนาดทั้งกลุ่ม เลยตัดสินใจ โยกตัวให้ล้มออกอีกข้าง ส่งผลให้ล้อหน้าพับ รถตีลังกา ตัวผมบินไปข้างหน้า บินฟาดพื้นเต็มๆ วันนั้นถ้าไม่มีหมวกกันน็อคช่วยไว้ คุณนันต้าบอกว่า ผมตายแน่นอน

ผลคือ กระดูกไหปลาร้าขวาหักละเอียด 4 – 5 ท่อน ต้องดามเหล็กไว้จนปัจจุบัน  ไหล่ซ้ายเอ็นและกล้ามเนื้อฉีก หน้าแหก แขนขามีแผลเล็กน้อย ต้องนอนโรงพยาบาล 10 วัน โดนล็อคแขนขยับไม่ได้ 2 ข้าง ร่วม 2เดือน หนักมากเลยครับ หลังจากนั้น คุณนันต้า ฝากเตือนทุกคน เลยว่า จักรยาน เช็คเองให้เป็น อย่าไว้ใจคนอื่น และที่สำคัญ หมวกกันน็อคต้องใส่ทุกครั้ง

เราถามว่า ถ้ามีคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก มาบ่นว่า เบื่อชีวิตทุกวันนี้เหลือเกิน อยากมีชีวิตใหม่ สิ่งที่คุณนันต้า จะตอบพวกเขาว่า อย่างไร คุณนันต้าบอกว่า คิดจะทำอะไร ต้องทำเลย อย่ารอเด็ดขาด เพราะการเริ่มต้น คือสิ่งที่ยากที่สุดแล้วหลังจากนั้น เตรียมใจไว้เลยว่า ช่วงแรก มันจะเหนื่อยมาก ร่างกายอุทธรณ์ แต่ห้ามท้อ ดังนั้น ผมอยากให้คุณ ตั้งเป้าหมายอย่างจริงจัง และหาแรงบันดาลใจของตัวเองให้เจอ แล้วใช้มัน

...สุดท้ายมองหากำลังใจ คนที่จะช่วยกันสู้ อยู่เป็นเพื่อนกัน ผมว่าสำคัญมากที่จะทำให้เรารักษาวินัยการออกกำลังให้ต่อเนื่องไปได้ แต่ถ้าหาเพื่อนคนนั้น ไม่เจอจริงๆ ผมขอเสนอตัวครับ ผมพูดจริงๆ และเคยเป็นเพื่อนออกกำลังกายให้หลายคนที่ต้องการมาแล้ว ไม่ต้องเกรงใจ เพราะนี่คือความสุขที่ผมอยากจะทำ”

กว่าจะลดมาได้ขนาดนี้ เคยท้อซักกี่ครั้ง ?

คำตอบที่ได้  คือ ไม่เคยท้อ เพราะใช้เป้าหมายและแรงบันดาลใจที่ตั้งไว้อย่างเต็มที่  ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว จิตใจที่เข้มแข็ง จะนำมาซึ่งร่างกายที่แข็งแรง

การสร้างลุคใหม่ให้ตัวเอง ภายในเวลาไม่ถึงปี ถือเป็นรางวัลชีวิต เลยได้ไหม

คุณนันต้า บอกว่า ภาพลักษณ์ที่ดูดีขึ้นถือเป็นผลพลอยได้ แต่สิ่งที่ได้จริงๆ และรู้สึกดี ที่ได้ สุขภาพ คืนกลับมา ราวกับได้กลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง สดชื่น มีพลังเหลือเฟือ ทำอะไรก็ไม่เหนื่อย ตัวเบา คล่องตัว อีกอย่างที่รู้สึกคือ ปลอดโปร่ง สมองว่องไวขึ้น ความจำก็ดีขึ้นด้วย เหมือนกลับไปอายุ 20 อีกครั้ง..

คอลัมน์ Young ทัน By อรรธจิตฐา วิทยาภรณ์