ผู้จัดการฯความปลอดภัยทางถนน แนะควรกำหนดเส้นทางเสี่ยงห้ามรถบัสวิ่ง

นพ.ธนะพงศ์ จินวงศ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ได้กล่าวถึงแนวทางและนโยบายในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนซ้ำซาก รวมถึง อุบัติเหตุรถบัส เสียหลักพลิกคว่ำ บนถนนสาย 304 เขาเข้าอำเภอปักธงชัย ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ว่า แนวนโยบายในแก้ไขปัญหาระยะยาวกระทรวงคมนาคมได้มีการวางเป้าหมายด้วการคุมกำเนิด รถบัส 2 ชั้น ไม่ให้มีเกิดขึ้นอีก แต่ตัวหลักที่จะทำให้เรื่องนี้สามารถลดความเสี่ยงและความรุนแรงที่เกิดขึ้น ต้องตั้งหลัก 3 ส่วนคือ อีกทั้งต้องทบทวนกระบวนการออกใบอนุญาต โดยเฉพาะ รถ 2 ชั้นที่เป็นรถประจำทาง ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ประกอบการมักเป็นรายย่อย จึงทำให้มีข้อจำกัดในการยกระดับมาตรฐานเรื่องความปลอดภัย อาทิ การฝึกอบรมคนขับ หรือมาตรฐานตัวรถ

และหากเข้าระบบมาแล้วจะทำอย่างไรให้ระบบกำกับ การจัดการความเสี่ยงอยู่ในการควบคุมเรื่องความเร็วได้ แม้จะมีการติดตั้ง GPS แล้วก็ตาม เนื่องจากระบบ GPS ยังมีจุดอ่อนเรื่องความสัมพันธ์กับกายภาพถนน ที่อาจต้องมีการเพิ่มเข้าไป รวมถึงการคำนวณความเร็ว ก็ต้องปรับปรุงด้วยการเสริมข้อมูลความเสี่ยงเรื่องเส้นทาง ที่กระทรวงคมนาคมมีเสริมเข้าไป พร้อมกันนี้ ระบบการแจ้งเตือนของ GPS ก็ควรเป็นลักษณะเรียวทาม ทันทีที่เกิดความเสี่ยง อีกทั้งไม่ควรตั้งค่าเตือน เป็นค่าเดียวกัน

นอกจากนี้กรมการขนส่งควรเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจระบบล้อ เบรก และการทำงานของตัวรถ หากไม่ผ่านการต่อใบอนุญาตหรือไม่มาตรวจสภาพ กรมการขนส่งก็ควรเข้าไปดำเนินการทันที และอีกจุดที่ควรควบคุมอย่างเข้มงวด คือการกำหนดเส้นทางเสี่ยง ให้กับรถโดยเฉพาะรถรุ่นเก่าตั้งแต่ปี 2557 ที่มักใช้เบรกลม ต้องห้ามวิ่งในเส้นทางลาดชันเกินกว่า 3 กิโลเมตร หรือถ้าจำเป็นก็ควรขออนุญาตเป็นรายๆ โดยมีเงื่อนไข

ขณะเดียวกัน นพ.ธนะพงศ์ ยังเสนอแนะถึงพฤติกรรมความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ หรือมีเหตุการณ์ดังเล่นกรณีวังน้ำเขียวก็ควรต้องมีระบบการเข้าสอบสวนในลักษณะเชิงลึก เพื่อให้ได้ข้อมูล เช่นเดียวกับการสอบสวนอุบัติเหตุของระบบการบิน ที่จะตรวจหาลึกถึงรากจะได้แก้ไขถูกต้อง