กรมอุทยานฯเตือน! ปชช.อย่าเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครอง

วันนี้(13พ.ค.)กรมอุทยานห่างชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยนายคมกริช เศรษบุปผา ผอ.ฝ่ายประชาสำพันธ์ แจ้งเตือนประชาชนอย่าเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองเพราะผิดกฎหมาย แม้เจ้าหน้าที่ไม่ตรวจพบเองก็มีผู้แจ้งมายังสายด่วน 1362 จึงขอย้ำว่าไม่สามารถกระทำได้ หากพบเห็นสัตว์ป่าคุ้มครองป่วยหรือพลัดหลงให้แจ้งมายังสายด่วนทันทีเจ้าหน้าที่พร้อมเข้าช่วยเหลือ และจะไม่จับกุมดำเนินคดีเนื่องจากผู้แจ้งมีเจตนาส่งมอบให้ราชการดูแลสัตว์ป่าคุ้มครองให้เป็นไปตามกระบวนการกฏหมาย

“เรามีสัตวแพทย์ สัตวบาลดูแลสัตว์ป่าตามหลักวิชาการ ที่ผ่านมาเฉพาะที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่ากระบกคู่ ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จว.ฉะเชิงเทรา อันเป็นที่ดูแลลิง 2 ตัวนั้นมีประชาชนแจ้งให้ไปรับสัตว์ป่าที่พลัดหลงหรือบาดเจ็บแล้วจำนวน 30 ตัวจึงขอยืนยันยให้ท่านที่รักสัตว์สบายใจได้ กรณีลิงกังตาบอด กับลิงแสมที่เป็นข่าวดังในโวเชียลมีเดีย นั้นอยากให้ประชาชนแยกแยะระหว่างความเมตตากับกฎหมาย เมื่อสู่กระบนการยุติธรรมคุณลักขณา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาจะต้องได้รับความยุติธรรมเช่นกันเนื่องจากความผิด หรือถูกขึ้นอยู่ที่เจตนา ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ต้องว่ากันไปตามหน้าที่เพราะมีผู้ให้เบาะแสเข้ามาหากเพิกเฉยไม่ดำเนินการอะไรอาจจะมีความผิดได้ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”

ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์กล่าวในตอนท้ายว่ากรมอุทยานฯยังมีโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่าในสถานีเพาะพันธุ์ต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งสัตว์ดังกล่าวมีทั้งของกลางจากการดำเนินคดี บาดเจ็บ พลัดหลงทางกรมอุทยานฯเปิดโอกาสให้ท่านที่รักสัตว์เป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ สามารถตั้งชื่อสัตว์และมีกิจกรรมต่างๆร่วมกันซึ่งรายละเอียดอยู่ในเว็บฯของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ท่านที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 02-561-4836 หรือบริจาคผ่านธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่าในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า บัญชีกระแสรายวัน เลขบัญชี 980 216 5379

สำหรับชีวิตใหม่ของลิงกังตาบอด กับลิงแสมที่เป็นข่าวครึกโครมในโลกออนไลน์นั้นมีรายงานว่าทีมสัตวแพทย์ และสัตวบาลได้ดูแลการอยู่กินและสุขภาพอย่างใกล้ชิด มีการให้อาหารอย่างถูกหลักโภชนาการมีการตรวจสุขภาพผลการตรวจเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมาลิงทั้ง 2 มีน้ำมูกใสและไอเป็นบางครั้งเนื่องจากอากาศเปลี่ยนมีฝนตก สามารถกินอาหารและน้ำ การขับถ่ายการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่