ตำรวจเลย แห่ร้องผู้บัญชาการฯ ภาค 4 อ้างถูกนายตำรวจโกงเงินสหกรณ์ร่วม 200 ล้าน

ตำรวจที่ปฎิบัติราชการอยู่ในจังหวัดเลย กว่า 10 นาย เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.สุระชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 โดยมี พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รับเรื่องแทน

พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ บอกว่า จากการตรวจสอบเอกสาร พบว่านายตำรวจส่วนใหญ่ เป็นสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ที่เข้าร่วมโครงการบริหารหนี้ เมื่อ ช่วงเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2560 จำนวน 194 ราย รวมเป็นเงินกว่า 229 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นมีพล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช เป็น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลยและเป็นประธานสหกรณ์ฯ ที่คิดโครงการบริหารหนี้ขึ้นมา

โดยมีขั้นตอนคือ พล.ต.ต.สุทิพย์ จะนำเงินไปผ่อนชำระ จนปิดบัญชียอดหนี้ทั้งหมด ระหว่างนั้นจะจ่ายเงินค่าตอบแทนแก่สมาชิก จำนวน 5,000 บาทต่อยอดเงินที่สมาชิกเข้าร่วมโครงการ คือ 1 ล้านบาทหรือตามอัตราส่วนร้อยละ 5,000 เป็นประจำทุกเดือน จนสิ้นสุดโครงการ

โดยจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์เป็นการตัดยอดหนี้เงินต้นคงเหลือ เมื่อครบกำหนด 3 ปี สหกรณ์จะคืนเงินให้แก่สมาชิกร้อยละ 50 ของยอดเงินที่เข้าร่วมโครงการ เช่น เข้าร่วมโครงการ 1 ล้านจะได้คืน 500,000 ตามอัตราส่วนของสมาชิกแต่ละคน

และนำไปตัดหนี้สินเงินคงเหลือที่สมาชิกมีอยู่กับสหกรณ์เพื่อจะได้ทำให้ยอดหนี้ของสมาชิกที่มีอยู่กับสหกรณ์มีจำนวนน้อยลงหรือหมดสิ้นไป หากสมาชิกผู้ใดไม่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการอีกต่อไป พล.ต.ต.สุทิพย์ จะนำเงินไปปิดบัญชีที่สมาชิกเป็นลูกหนี้แก่สถาบันการเงิน

แต่นายตำรวจที่เข้าร่วมโครงการ กลับได้รับการทวงหนี้จากธนาคารต่างๆตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2560 นอกจากนี้ยังมีบริษัทไฟแนนซ์ มาทวงถามให้ชําระหนี้และจะยึดรถเป็นจำนวนมาก

เมื่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สหกรณ์ กลับได้รับคำตอบกลับมาว่าระบบการเบิกจ่ายเงินถูกล็อคกำลังแก้ไขระบบอยู่ สมาชิกจึงแจ้งขอยกเลิกการเข้าร่วมโครงการบริหารหนี้ ขอให้นำเงินที่เข้าร่วมโครงการไปชำระปิดบัญชี แต่สหกรณ์แจ้งว่า ไม่เคยได้รับตั้งแต่สมาชิกเข้าร่วมโครงการ

ทำให้สมาชิกหลายราย จะถูกยึดบ้าน ยึดรถ บางส่วนถูกธนาคารหักเอาเงินที่มีอยู่ในบัญชีไปจนหมด บางรายถูกอายัดเงินในบัญชีไว้ เดือดร้อนไม่มีเงินจุนเจือครอบครัวและค่าใช้จ่ายของบุตรหลานที่กำลังจะเปิดเทอมหลายคนต้องไปขอกู้ยืมเงินนอกระบบ เพื่อไปชำระหนี้ค้างไว้ เพราะธนาคารจะยื่นฟ้องบังคับหนี้

พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ยืนยันว่า ทุกอย่างต้องดำเนินการตามขั้นตอน โดยจะเร่งตั้งกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แม้ว่า ผู้ถูกร้องเรียนเป็นข้าราชการระดับสูง ก็ไม่หนักใจ หากข้าราชการทำผิดก็ต้องถูกดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ต้องตรวจสอบด้วยว่าเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ หรือถ้าเกี่ยวพัน เชื่อมโยงกับบุคคลในหลายภาคส่วน ก็จะประสาน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบร่วมกัน พร้อมรายงานถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาช่วยเหลือความเดือดร้อนของตำรวจด้วย