svasdssvasds

"สุวพันธุ์" เดินหน้า! ตรวจสอบเงินทอนวัด เน้น พศ. ในฐานะต้นทางงบ

"สุวพันธุ์" เดินหน้า! ตรวจสอบเงินทอนวัด เน้น พศ. ในฐานะต้นทางงบ

"สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ" เผยเดินหน้าตรวจสอบเงินทอนวัดโดยเฉพาะ พศ. ในฐานะต้นทางงบ ขณะที่ 3 ป.ออกมาขอโทษ เพราะเราเป็นเมืองพุทธ ย้ำ รบ.ทำดีที่สุดเพื่อศาสนา แจงคณะสงฆ์อยู่ระหว่างปฏิรูปตัวเองอยู้แล้วไม่ต้องจัดระเบียบ

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตรวจสอบการทุจริตเงินทอนวัดว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้งบประมาณของรัฐ โดยเริ่มที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ซึ่งขณะนี้มีข้าราชการของพศ.ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนและดำเนินคดีทางอาญา 15 คน โดย 4 คนถูกไล่ออกจากราชการไปแล้ว และในแต่ละเดือนที่คณะอนุกรรมการข้าาราชการพลเรือนของ พศ. มีการประชุม ก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการมาพิจารณาในทุกเดือน ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญเพราะเป็นต้นทางของงบประมาณ จึงต้องการให้เกิดความมั่นใจว่าการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนเงินอุดหนุนด้านต่างๆ ได้ถูกนำไปใช้ตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่วางไว้

ส่วนการดำเนินการในอนาคตจะนำไปสู่การตรวจสอบบัญชีการเงินของพระผู้ใหญ่เพื่อป้องกันการทุจริตหรือไม่นั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ต้องแยกส่วนกันระหว่างงบประมาณของรัฐที่จะต้องใช้ระบบราชการเข้าไปดำเนินการ อย่างเช่นที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ส่วนเงินบริจาค ส่วนตัวเชื่อว่าวัดมีการบริหารจัดการและมีระเบียบเงินบริจาคที่ดีอยู่แล้ว และการดำเนินการของคณะสงฆ์หลายเรื่องมีความเข้มงวด รวมทั้งเรื่องการรับเงินบริจาคด้วย และขณะนี้คณะสงฆ์เองก็มีการปฏิรูป ทั้งเรื่องการศึกษา การเผยแผ่ศาสนา การบริหารจัดการต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการบริจาคเงิน ซึ่งคณะกรรมการแต่ละด้านก็กำลังดำเนินการอยู่ และคาดว่าหลังจากนี้จะมีการวางกฎเกณฑ์ และมีมติมหาเถรสมาคมเพิ่มมากขึ้น

ส่วนพระผู้ใหญ่ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีนั้น ทางตำรวจดำเนินการอยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องกำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะทุกอย่างยึดหลักตามความยุติธรรม และข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่ได้เป็นการจัดระเบียบคณะสงฆ์ เพราะคณะสงฆ์กำลังอยู่ระหว่างการปฏิรูปตัวเองอยู่แล้ว โดยมีรัฐบาลสนับสนุนอยู่ และส่วนตัวเชื่อว่าคณะสงฆ์ก็ต้องการทำในสิ่งที่ถูกต้อง

ส่วนการสึกโดยที่เจ้าตัวไม่มีการเปล่งวาจาจะถือว่าขาดจากความเป็นพระหรือไม่นั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ส่วนตัวตอบไม่ได้ ต้องไปดูกฎของสงฆ์ ตนตอบแทนไม่ได้ แต่ในครั้งนี้ พระที่ถูกดำเนินการก็เหมือนท่านได้ลาสิกขาไปแล้ว แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณืตรงนั้น ส่วนพระผู้ใหญ่ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีจะมีขั้นตอนการติดตามอย่างไร นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ทางตำรวจดำเนินการอยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องกำชับอะไรเป็นพิเศษ ทุกอย่างยึดหลักตามความยุติธรรม และข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้จะถือเป็นการจัดระเบียบพระสงฆ์ไปในตัวหรือไม่นั้น คณะสงฆ์กำลังอยู่ระหว่างการปฏิรูปตัวเองอยู่แล้ว และรัฐบาลก็สนับสนุนอยู่ และส่วนตัวเชื่อว่าคณะสงฆ์ก็ต้องการทำในสิ่งที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ นายสุวพันธ์ ยังกล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์การควบคุมตัว นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่ซ่องโจร ร่วมทำร้ายร่างกายตำรวจสันติบาล 2 นายบาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส และคดีปลอมพระปรมาภิไธยและใช้พระปรมาภิไธยที่ปลอมขึ้น ลงองค์พระเครื่องนาคปรกอุดปรอทนั้น ว่า นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้วโดยเฉพาะการกำชับตำรวจ ที่จะต้องดำเนินการในระยะต่อไป ซึ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดี รัฐบาลมอบหมายให้ตำรวจเป็นเจ้าของเรื่องในการดำเนินการไปตามข้อมูลและพยานหลักฐานที่มีอยู่ สิ่งที่รัฐบาลเน้นย้ำคือการให้ความเป็นธรรมและทำตามข้อเท็จจริง

ขณะที่กระแสสังคมมีการตั้งคำถามว่าทำไมนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีต้องออกมาขอโทษอดีตพระพุทธอิสระ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในฐานะที่เราเป็นเมืองพุทธ ส่วนอาจ เป็นเพราะนายกฯ รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เคารพพระพุทธอิสระด้วยหรือไม่นั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องดูทั้งบริบท อย่าดูแยกส่วน และเชื่อว่ารัฐบาลอยากทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพระพุทธศาสนา ในฐานะเป็นคนพุทธ

พร้อมกันนี้ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องปัจเจก ไม่ใช่คณะสงฆ์โดยรวม และไม่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นและศรัทธาในพระพุทธศาสนา ส่วนตัวคิดว่าจะต้องจำแนก ระหว่างเรื่องปัจเจกบุคคลและคณะสงฆ์ และพระธรรมคำสอน เพราะศาสนาพุทธดำรงคำสอนมากว่า 2561 ปีแล้ว จะอย่างไรก็ยั่งยืน

ส่วนปฏิบัติการครั้งนี้ จะทำใหรัฐบาล คสช. เสียมวลชนไปเยอะหรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวเพียงสั้ันๆว่า คงต้องให้คนอื่นประเมิน

related