svasdssvasds

เปิดศูนย์ "EOC" รับมือ "ไข้เลือดออก" กำลังเข้าสู่ฤดูระบาด

เปิดศูนย์ "EOC" รับมือ "ไข้เลือดออก" กำลังเข้าสู่ฤดูระบาด

อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค (EOC) รับมือการระบาดของโรคไข้เลือดออก หลังปีนี้พบอัตราป่วยสูงในกลุ่มเด็กวัยเรียน แต่กลับพบกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 15 ปีขึ้นไปเสียชีวิตมากถึง 12 ราย จาก 19 ราย

วันนี้ (1 มิถุนายน 2561) ที่กรมควบคุมโรค  นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย  อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังเป็นประธาน เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค (EOC) กรณีการระบาดของโรคไข้เลือดออก ว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2561 ตั้งแต่ 1 มกราคม – 30 พฤษภาคม 2561 ประเทศไทยมีผู้ป่วย 13,164 ราย เสียชีวิต 19 ราย

จากระบบเฝ้าระวังโรคพบว่าจำนวนผู้ป่วยเริ่มสูงกว่าปกติตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา โดยพบการเกิดโรคมากในภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล, จังหวัดใหญ่ทางภาคใต้ เช่น นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ ภูเก็ต, ภาคกลางตอนบน ได้แก่ นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก, และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ

นอกจากนี้ การป่วยและเสียชีวิตตามกลุ่มอายุ พบว่าอัตราป่วยยังคงสูงสุดในเด็กวัยเรียน 5–14 ปี พบผู้ป่วย 4,486 ราย อัตราป่วย 56 ต่อประชากรแสนคน แต่เมื่อพิจารณาการเสียชีวิตพบว่าในปี 2561 นี้ ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมากกลับเป็นกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 12 ราย จากทั้งหมด 19 ราย

เปิดศูนย์ "EOC" รับมือ "ไข้เลือดออก" กำลังเข้าสู่ฤดูระบาด

จากการสอบสวนกรณีการเสียชีวิต พบสาเหตุ

1.ผู้ป่วยมารักษาที่โรงพยาบาลช้า เนื่องจากมีไข้สูงแต่ไปซื้อยากินเองหรือไปฉีดยาตามคลินิก แต่ไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของไข้

2.ผู้ป่วยในกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ แพทย์อาจวินิจฉัยคลาดเคลื่อนเป็นโรคอื่นๆ ในระยะแรกของการป่วย เนื่องจากในอดีตไข้เลือดออกจะพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่

3.ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ การให้สารน้ำและดูแลในภาวะวิกฤตจะยากและซับซ้อนกว่าผู้ป่วยเด็ก ทำให้มีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ง่าย เช่น ตับวาย ไตวาย

ขอให้คำแนะนำเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก 

1.ประชาชนควรสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไข้สูงเกินกว่า 2วัน ต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของไข้ ไม่ควรไปฉีดยาลดไข้หรือซื้อยากินเอง

2.บุคลากรทางการแพทย์ หากพบผู้ป่วยที่มีอาการไข้สูงลอยเกินกว่า 2 วัน แม้เป็นผู้ใหญ่ก็ต้องนึกถึงและตรวจหาสาเหตุว่าเป็นไข้เลือดออกหรือไม่

3.ผู้ป่วยที่สงสัยโรคไข้เลือดออก และมีโรคเรื้อรังประจำตัวหรือเป็นผู้สูงอายุ หากเข้าสู่ภาวะวิกฤต เช่น ความดันโลหิตต่ำ เกร็ดเลือดต่ำ ควรมีผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในผู้ใหญ่และด้านเวชบำบัดวิกฤตคอยให้คำปรึกษาในการดูแลรักษาผู้ป่วย

การป้องกันโรค โดยยึดหลัก “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ

1.เก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง

2.เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

3.เก็บน้ำ ภาชนะใส่น้ำต้องปิดฝาให้มิดชิดป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่

เพื่อป้องกัน 3 โรคในคราวเดียวกัน คือ

1.โรคไข้เลือดออก

2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา

3.ไข้ปวดข้อยุงลาย

รวมถึงสังเกตอาการของตนเอง หากมีอาการไข้สูงมากโดยฉับพลัน ปวดเมื่อย หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ และหากมีไข้สูง 2-3 วันไม่หายหรือไม่ดีขึ้น ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว

related