svasdssvasds

แพทย์เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน และ ด้านการบิน เผย กฎ 333 ของการมีชีวิตรอด!

แพทย์เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน และ ด้านการบิน เผย กฎ 333 ของการมีชีวิตรอด!

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

นพ.สุระ เจตน์วาที แพทย์เวชศาสตร์การบิน และผู้เชี่ยวชาญด้านการลำเลียงผู้ป่วยและกู้ชีพทางอากาศ กล่าวถึงในเรื่องของสุขภาพทั้ง 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ว่า ตามหลักจะใช้สุนัข K9 ดมกลิ่นในวงกว้างว่า มีสัญญาณการมีชีวิตของมนุษย์อยู่หรือไม่ นอกจากนี้่เพื่อเป็นการจำกัดพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่กลิ่นตัวมนุษย์จะขึ้นมาตามโพรงถ้ำ หรือแม้แต่ในน้ำ ซึ่งจมูกสุนัขจะไวกว่ามนุษย์ทั่วๆ

ส่วนการลำเลียงผู้บาดเจ็บออกมานั้นยิ่งเป็นยากมากเพราะต้องทำให้เขาบาดเจ็บให้น้อยที่สุด ก่อนนำส่งโรงพยาบาล

สำหรับ ปัจจัยที่มีผลต่อการมีชีวิตอยู่ภายในถ้ำหลวง มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงหลายประการ ดังมีคนกล่าวถึงกฎ 333 ของการมีชีวิตรอดไว้ว่า “ขาดอากาศ 3 นาที ขาดน้ำ 3 วัน ขาด อาหาร 3 สัปดาห์”

และน้ำเป็นสิ่งสำคัญมาก ถึงแม้ว่า น้ำในถ้ำอาจจะไม่สะอาดนัก มีเชื้อโรคพอสมควร แต่ก็ดีกว่าไม่มี ซึ่งหากเป็นน้ำไหลก็ยังใช้ได้ เพราะการขาดน้ำเป็นเรื่องที่อันตรายมาก แม้แต่ในเรื่องของอุณหภูมิถ้ำ เพื่อใหร่างกายอบอุ่น ควรยืนกันเป็นวงกรมจับมือกันไว้เพื่อเพิ่มความอบอุ่น

และเมื่ออยู่ในถ้ำนานๆ ภายในมีความชื่นสัมผัสมาก อาจส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอลงกว่าปกติ เนื่องจากภายในถ้ำ นั้นอาจจะมีเชื้อโรคที่ไม่เคยเจอ เพราะอยู่ในถ้ำลึก ดังนั้น โอกาสที่ทั้ง 13 คนออกมาจากถ้ำแล้วเจ็บป่วยเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ การมีสติเท่านั้นที่จะทำให้ทั้ง 13 ชีวิต สามารถการเอาชีวิตรอดมากได้

แพทย์เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน และ ด้านการบิน เผย กฎ 333 ของการมีชีวิตรอด!

related