ปี 2561 มีผู้ป่วยใช้บริการที่สถาบันจิตเวชศาสตร์ฯ มากขึ้น แผนกผู้ป่วยนอก มีผู้ใช้บริการรวม 130,000 คน ส่วนใหญ่มาจากเขตกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 24 ผู้ป่วยในผู้ป่วยจิตเวช 140,000 คน เฉลี่ยวันละ 487 คน
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต และคณะ ตรวจเยี่ยมสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม. เพื่อติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาระบบบริการผู้ป่วยจิตเวชและผู้มีปัญหาสุขภาพจิตในปีงบประมาณ 2561 และให้สัมภาษณ์ว่า ในรอบ 3 เดือนมานี้ สถาบันฯมีผลการดำเนินงานที่ก้าวหน้ามาก มีการปรับเปลี่ยนระบบบริการสนองตามนโยบายของกรมสุขภาพจิตทั้งสถานที่และการบริการ จัดบรรยากาศสิ่งแวดล้อมเป็นมิตร ให้เกียรติผู้ป่วยทุกจุดบริการ ที่นั่งรอรับบริการมีความสุขสบายขึ้นกว่าเดิม ลดและขจัดตราบาปผู้ป่วย ให้บริการอบอุ่น ลดขั้นตอนให้กระชับขึ้น จากการสอบถามผู้ใช้บริการรายเก่าที่แผนกผู้ป่วยนอกพบว่ามีความพึงพอใจได้รับบริการเร็วขึ้น ได้รับยากลับบ้านหลังตรวจรักษาแล้วภายใน 75 นาที
การดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยหลังพ้นภาวะวิกฤติโดยทีมสหวิชาชีพ
ขณะนี้ดำเนินการทั้งผู้ป่วยในและดำเนินการในรูปแบบของโรงพยาบาลกลางวัน ฟื้นฟูผู้ป่วยที่อาการทางจิตทุเลาแล้วแบบเช้าเย็นกลับวันละ 30-35 คน ออกแบบการดูแลเหมาะสมกับผู้ป่วยเฉพาะรายเช่นเดียวกับต่างประเทศ เน้นความสอดคล้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่เดิมของผู้ป่วย จนผู้ป่วยมีอาการหายขาดหรือทุเลา เป็นบุคคลที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วนทั้งกาย ใจ จิต สังคมและวิญญาณ มีความมั่นใจ ภาคภูมิใจ มีความหวัง สามารถกลับไปใช้ชีวิตในครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีความสุข และไม่กลับมาป่วยซ้ำอีก ซึ่งเป็นจุดเด่นและเป็นรูปแบบที่เป็นหัวใจสำคัญของการดูแลผู้ป่วยทางจิตที่มีอาการยุ่งยากซับซ้อนของโรงพยาบาลจิตเวช และมีนโยบายให้เพิ่ม ห้องสันทนาการให้ผู้ป่วยที่ผ่านการฟื้นฟูสมรรถภาพแล้ว เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยผ่อนคลายและฟื้นคืนสู่สภาพปกติเร็วยิ่งขึ้น
แผนการพัฒนาสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา
กรมสุขภาพจิตจะให้เป็นสถาบันเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านประสาทจิตเวชศาสตร์ระดับประเทศขนาด 500 เตียง โดยในปีนี้ได้เปิดคลินิกฟื้นฟูความจำในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมทั้งชนิดทั่วไปและสมองเสื่อมที่มีอาการทางจิตร่วมด้วย เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ และในปีหน้าหน้าเตรียมเปิดศูนย์นิทราเวช หรือ ศูนย์การนอนหลับ (Sleep Lab) สำหรับผู้ป่วยจิตเวชซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ ผู้ป่วยบางรายอาจต้องมี การตรวจวินิจฉัยพิเศษเพิ่มเติม ศูนย์นี้จะมีการประเมินทั้งระบบหัวใจโดยตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจหรืออีเคจี (Electrocardiography:EKG) และจัดซื้อเครื่องตรวจคลื่นสมองหรืออีอีจี (Electroencephalography : EEG)และตรวจการหายใจขณะนอนหลับ เป็นแห่งเดียวและแห่งแรกของกรมสุขภาพจิต ซึ่งจะมีประโยชน์ในการตรวจวินิจฉัยประเมินอาการและวิจัยในผู้ป่วยจิตเวชที่มีความผิดปกติทางสมองโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอาการชัก หรือผู้ป่วยโรคสมองอื่นๆ เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยแยกโรคได้อย่างแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษายิ่งขึ้น คาดว่าจะเปิดบริการในต้นปีหน้า ขณะนี้ได้เตรียมอุปกรณ์และบุคลากรไว้พร้อมแล้ว
ด้านนายแพทย์นพดล วาณิชฤดี ผู้อำนวยการสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กล่าวว่า ในปีนี้สถาบันฯได้ร่วมกับสถาบันวิชาการศึกษาวิจัยในผู้ป่วยจิตเภท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่พบได้บ่อยที่สุดประมาณร้อยละ 50 ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน โดยร่วมศึกษากับมหาวิทยาลัยมหิดล 2 เรื่อง ได้แก่
1.การวิจัยหาความสัมพันธ์ระหว่างกลไกการอักเสบในร่างกายกับการเกิดโรคจิตเภท
2. การวัดการทำงานของสมองเกี่ยวกับความคิดความจำของผู้ป่วยจิตเภท
ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชที่ทำให้เกิดความเสื่อมทางสมอง ทำให้ความคิด ความจำบกพร่อง และวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาหลายแห่งอาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศรีธัญญา คือ.การศึกษาปัจจัยทำนายความพิการยาวนานในผู้ป่วย จิตเภท ใช้เวลา 2 ปี ซึ่งหากสำเร็จจะช่วยยกระดับการดูแลผู้ป่วยจิตเภทในอนาคตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น